ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า  วันนี้  ( 10  มิ.ย. 2560 ) นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติด้านการท่องเที่ยวและด้านการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะการบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สมุนไพรไทย ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารับบริการเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ

ทั้งนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ขานรับนโยบายการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ( Medical Hub ) โดยร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานบริการและแหล่งท่องเที่ยวสู่เมืองสปาต้นแบบ

โดยการพัฒนาจะเป็น การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดการพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งสร้างรายได้และกระจายไปชุมชนท้องถิ่นให้อย่างทั่วถึง สร้างคุณค่าด้านสุขภาพ การแพทย์ และเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์

รวมทั้งผลักดันโดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในกลุ่มของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม สุขภาพที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตชุมชน โดยนำร่องที่แรกที่พุร้อนเค็มคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติ

น้ำพุร้อนเค็มรีสอร์ท

ข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี พบในประเทศไทยมีแหล่งน้ำพุร้อน ทั้งหมด 118 แห่ง ใน 29 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือ 66 แห่ง  รองลงมาคือภาคใต้ 36 แห่ง และภาคกลาง 16 แห่ง มีความร้อนตั้งแต่ 40 – 100 องศาเซลเซียล มีแร่ธาตุไม่ต่ำกว่า 50 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สำหรับอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จะดำเนินการให้เป็นเมืองสปาต้นแบบ

เนื่องจากมีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำตกร้อน โคลนร้อน หาดทรายร้อนและน้ำพุร้อนเค็ม เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติกับการรักษาทางการแพทย์ ที่เรียกว่า ธาราบำบัด เป็นการใช้น้ำที่มีอุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียล ช่วยเพื่อการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดความสมดุลของระบบประสาทอีกด้วย

สำหรับการพัฒนา ในระยะสั้น ได้แก่ พัฒนาให้จังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบครบวงจร อาทิ การแช่น้ำร้อน จากบ่อน้ำสาธารณะ สถานประกอบการสปา การแพทย์แผนไทยและการพำนักระยะยาว สร้างเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ ปลูกจิตสำนึกให้คนในชุมชนรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ให้เกิดผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างมาตรฐานความปลอดภัย

สิ่งอำนวยความสะดวก และแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคเพื่อให้พร้อมรองรับสู่เมืองท่องเที่ยว ในส่วนของระยะยาว จะดำเนินการขยายผลไปยังทุกอำเภอในจังหวัดกระบี่ และน้ำพุร้อนใน 27 จังหวัด ทั่วประเทศและประกาศให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย

 นอกจากนี้ กรม สบส.จะดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด ตามพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ 2551 และคาดว่าจะเปิดตัวโครงการภายในเดือนกรกฎาคม 2560 นี้

เครดิตภาพจาก เพจ น้ำพุร้อนเค็มรีสอร์ท

เรื่องน่าสนใจ