เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม.2 ร.ร.วัดสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียนกรุงเทพฯ ว่าลูกชายเข้ารับการรักษาด้วยการคล้ายกับอาการมึนเมายาบางชนิด ไม่ทราบว่ายาชนิดใด ภายหลังที่เข้าร่วมงานกีฬาสีของร.ร.เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา

930973

โดยขณะนี้พักรักษาตัวที่อยู่ที่ห้องรวม 512 รพ.พระราม 2 จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบก็พบ ด.ช.เอ นอนอยู่บนเตียงสภาพคล้ายคนเมายาบางชนิด โดยมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ผู้ปกครองด.ช.เอ เปิดเผยว่า ลูกชายกลับมาจากร.ร. สังเกตว่ามีสีหน้าซีดเผือกเดินเซไปมา พูดจาไม่รู้เรื่อง มีอาการเบลอคล้ายคนเมายา จึงรีบล้วงคอให้อาเจียน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น จึงโทรไปสอบถามยังครูประจำชั้นจึงทราบว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีนักเรียนหญิงรุ่นพี่ นำยาไม่ทราบชนิด มีผลกล่อมประสาทมาที่ร.ร.และมีเพื่อน ๆ กินไปหลายราย จนมีอาการเบลอยาคล้ายคนเมา

ทางร.ร.จึงรีบนำตัวส่งรพ. เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวตนจึงรีบพาลูกชายไปส่งรพ.พระราม 2 ทันที หมอได้ทำการล้างท้องและให้น้ำเกลือ พร้อมให้ยาลดอาการอาเจียนทางสายยาง แต่ผ่านไปกว่า 1 คืน ตอนนี้ก็ยังมีอาการมึนเมาและเบลอ ๆ

930974

เมื่อสอบถามเหตุการณ์ยังพูดจาสับสน บอกว่ารุ่นพี่เอาวิตามินมาที่ร.ร.แล้ววางไว้ จึงหยิบมากินไป 5 เม็ด ก็เกิดอาการเช่นนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก อย่างไรก็ตามได้ไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.แสมดำแล้ว เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ด้านนายรัชพล งามอักษร ผอ.ร.ร.วัดสะแกงาม เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบว่ายาชนิดนี้ชื่อยาอีริมิน ไฟว์ ผลิตในประเทศญี่ปุ่น โดยทางร.ร.สามารถตรวจยึดได้ 28 แผง แผงละ 10เม็ด โดยมีด.ญ.บี เป็นผู้ที่นำมาและให้การว่า นำยาชนิดนี้มาจากพี่เขยซึ่งมีอาการทางประสาท และต้องใช้ยาชนิดนี้เป็นประจำ คิดว่าเป็นวิตามินจึงแอบขโมยมาจากที่บ้านเพื่อมาลองกิน

930975

และมีเพื่อน ๆ ขอกินด้วยจึงแบ่งให้ ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนที่กินยาดังกล่าวเข้าไปถึง 17 คน และต้องเข้ารักษาที่ รพ.พระราม 2 และรพ.เพชรเกษม ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิงร่วมห้องของด.ญ.บี ขณะนี้ทุกคนอาการดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้จากการสอบถามแพทย์ระบุว่า ยาดังกล่าวเป็นยานอนหลับที่มีฤทธิ์แรงกว่ายานอนหลับทั่วไปกว่า 10 เท่า ใช้รักษาในผู้ป่วยที่มีอาการทางประสาทและลมชัก หากกินเข้าไปจะมีอาการสับสน มึนงง เสียการทรงตัวหากกินเข้าไปในปริมาณมาก หรือ ใช้ร่วมกับเหล้า อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การรักษาเบื้องต้นแพทย์ยังไม่มีวิธีการรักษาที่ใช้รักษาได้ ทำได้เพียงแค่ควบคุมอาการและให้ยาค่อย ๆ หมดฤทธิ์ไปเอง

“สำหรับด.ญ.บี ปกติเป็นนักเรียนดีเด่น อีกทั้งยังเป็นเด็กสู้ชีวิตจะตระเวนร้องเพลงหาเงินตามร้านอาหาร เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว จึงคิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เบื้องต้นได้สั่งให้คณะครูช่วยกันสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจอย่างมาก จึงอยากจะขอโทษผู้ปกครองที่ดูแลเด็กทั้งหมดไม่ดีพอ หลังจากนี้ร.ร.จะเพิ่มมาตรการการดูแลเด็กให้เข้มงวดกว่าเดิม และจะเน้นสร้างทักษะชีวิตให้นักเรียน อย่างไรก็ตามทางร.ร.จะรับผิดชอบในเรื่องของการดูแลค่ารักษาพยาบาล และเยี่ยวยานักเรียนทั้งหมด” นายรัชพล กล่าว

ด้าน ร.ต.ท.พายัพ สุคนธศาล พงส.สน.แสมดำ เปิดเผยว่า มีครอบครัวเด็กผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 7 ราย ทั้งนี้ได้เตรียมเรียกครอบครัวของ ด.ญ.บี มาทำการสอบสวน โดยเฉพาะในส่วนของพี่เขย เพื่อสอบถามว่านำยาชนิดนี้มาจากที่ใด เพื่อทำการสอบสวนตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

ที่มา เดลินิวส์ 

เรื่องน่าสนใจ