ที่มา: bangmodaesthetic.com

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ตามธรรมชาติแล้ว หนังตาบริเวณด้านข้างจะตกก่อน และตกมากกว่าด้านใน ซึ่งโดยทั่วไปจะเรียกอาการแบบนี้ว่า “หางตาตก” ซึ่งมักเกิดร่วมกับ ภาวะคิ้วตก และรอยตีนกา (Crow’s feet) บริเวณหางตานั่นเอง แล้วเราจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ยังไงดี วันนี้ มีคำตอบมาฝากค่ะ

วิธีแก้ไข “หางตาตก” โดยการทำศัลยกรรมมีได้หลายวิธี และมีข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

1. การทำตาสองชั้น

โดยตัดผิวหนัง และไขมันส่วนเกินออก โดยแผลจะซ่อนอยู่ตามรอยตาสองชั้น มีข้อดีคือ ทำได้ง่าย แถมได้ตา 2 ชั้นไปด้วย แต่มีข้อเสียคือ แผลกรีดยาว เวลาหลับตาเห็นเป็นรอยแผลชัด และยาวเลยขอบตา หากต้องการเก็บหนังที่เกินด้านข้างมากๆ และไม่เป็นธรรมชาติ

2. เก็บแผลใต้คิ้ว

โดยเก็บแผลไว้ใต้คิ้ว (Subbrow lift) มีข้อดี คือ แผลซ่อนอยู่ใต้คิ้ว ไม่มีแผลที่ชั้นตา แต่จะมีข้อเสียคือ ระยะห่างระหว่างคิ้ว กับตาจะสั้นลง ดึงให้หางคิ้วตกได้ หากทำไม่ถูกวิธี และผลลัพธ์ที่ได้ จะไม่ถาวร และไม่เป็นธรรมชาติ

3. การดึงหางตา หรือ ยกหางตา (Temporal lift)

เป็นเทคนิคใหม่ ที่ประยุกต์เอาเทคนิคการดึงหน้าส่วนบน มาใช้กับบริเวณหางตา มีข้อดีคือ

  • สามารถยกหางตาได้มาก
  • ชั้นตาที่ตกดูดีขึ้น
  • แก้รอยตีนกาได้
  • ยกหางคิ้วได้
  • โหนกแก้มยกขึ้น
  • ริ้วรอยบริเวณร่องแก้มดีขึ้น
  • ทำให้ใบหน้าดูอายุน้อยลง
  • ผลที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ
  • โดยแผลซ่อนอยู่ที่ไรผมบริเวณขมับ

เรียกว่าเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ผลถาวรและดีสุดในขณะนี้ แต่ข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายที่สูง และ ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ

การผ่าตัดดึงหางตา ด้วยเทคนิครพ.บางมด (Temporal lift , Bangmod Technique) เป็นการผ่าตัดเล็ก สามารถฉีดยาชาทำได้ โดยใช้เวลาเพียง 30-45 นาที ลักษณะของแผลจะซ่อนอยู่ที่ไรผมบริเวณขมับ มีข้อดีคือ บวมน้อย เจ็บน้อย ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลยทันที นัดตัดไหม 1 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์

ศัลยกรรมดึงหางตา ด้วยเทคนิค รพ.บางมด (Temporal lift Bangmod Technique) เมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

  1. ช่วยทำให้บริเวณหางตาที่ตก ยกขึ้น และชั้นตาดูดีขึ้นเพราะหนังตาส่วนเกินถูกยกขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ
  2. ช่วยทำให้หางคิ้วที่ตก ยกขึ้นอย่างพอดี และเป็นธรรมชาติ
  3. ช่วยลดรอยตีนกา (Crow’s Feet) อย่างชัดเจน และถาวร
  4. โหนกแก้ม (Malar Area) ที่หย่อนคล้อย ยกขึ้น ทำให้ดูอ่อนวัยลง
  5. ช่วยทำให้บริเวณร่องแก้ม(Nasolabial Fold) จางลงใบหน้าจึงดูอ่อนวัยลงอย่างชัดเจน (โดยเฉลี่ย 5-8ปี )

ฟังเทคนิคไปแล้ว เราลองมาชมเคสรีวิวกันนะคะ คนไข้รายนี้เป็นผู้หญิงอายุ 51 ปี ต้องการทำศัลยกรรมให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลง และดวงตาดูไม่เศร้าหมอง จากการตรวจอย่างละเอียด พบว่า คนไข้มีชั้นตา 2 ชั้น ที่ชัดและสวยอยู่แล้ว แต่โครงสร้างดวงตาด้านข้างอยู่ในระดับต่ำ (มีหางตาที่ตก) และริ้วรอยที่บริเวณ หางตา (Crow’s feet) ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนไข้ดูมีอายุมากขึ้น และตาแลดูเศร้าหมอง

ทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง รพ.บางมด จึงได้ทำการศัลยกรรมดึงหางตา (Temporal lift) เพื่อทำให้หางตาที่ตก ยกขึ้น, แก้รอยตีนกา (Crow’s feet) ที่บริเวณหางตา และทำให้ใบหน้าส่วนบนตึงขึ้น โหนกแก้มยกขึ้น โดยซ่อนแผลผ่าตัดไว้บริเวณไรผม

  • การผ่าตัดใช้การฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 30 นาที
  • หลังผ่าตัด มีการบวมช้ำอยู่ 2-3 วันแรก และ 1 สัปดาห์แผลหายดี และตัดไหม
  • 2 สัปดาห์เข้าที่เป็นปกติ ริ้วรอยลดลง หางตา และหนังตาที่ตกดูดีขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ปล.
o การทำศัลยกรรมที่ดี ต้องอาศัยการตรวจวิเคราะห์โดยละเอียดก่อนผ่าตัด , ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการดูแลหลังผ่าตัดที่ดี จึงจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
o การศัลยกรรมดึงหางตา เป็นการปรับรูปตาที่ได้ผลค่อนข้างถาวร และสามารถเลือกได้ว่าต้องการยกระดับหางตามากน้อยเพียงใด ตามความชอบของแต่ละบุคคล

 


“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
เพิ่มเพื่อน

เรื่องน่าสนใจ