เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com
เราอยากบอกคุณว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากวิธีคิดของเรา และการใช้ชีวิตประจำวันของเรา หากเราอยากหุ่นดีเราก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ยาก เราไม่จำเป็นต้องอดอาหารด้วยซ้ำ และเราจะมาบอกทิปส์ไดเอตง่ายๆ ทําได้ด้วยตัวเอง เพราะการลดน้ำหนักที่ประสบความสําเร็จอย่างยั่งยืนขึ้นกับการปรับวิธีคิด วิธีอยู่ และวิธีกิน ของเรานั่นเองค่ะ
กิน 4 มื้อ ผอมกว่าอดมื้อ กินมื้อซะอีก
บางครั้ง ร่างกายคนเราก็ไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือน 1+1=2 เสมอไปนะคะ คุณไม่กินอาหารเช้า มีความเสี่ยงที่จะอ้วนเพิ่มขึ้นถึง 4.5 เท่า แม้ว่าคนที่กินมื้อเช้าจะได้รับพลังงานรวมมากกว่าคนที่ไม่ได้กินอะไรเลยก็ตาม ดังนั้น การลดน้ำหนักโดยงดมื้อเช้านั้นเป็นการเริ่มต้นที่ผิดโดยสิ้นเชิง ผลวิจัยรายงานว่า การแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 3-4 มื้อต่อวันนั้นช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนอินซูลินได้ดีกว่าปล่อยให้หิวโซจนกระซวกอาหารเข้าไปไม่ยั้ง เพราะนอกจากจะกระทบต่อระดับฮอร์โมน น้ำตาลในเลือดต่ำ ยังส่งผลถึงการตัดสินใจเลือกกินอาหารที่ผิดพลาด และหนำซ้ำเวลาทานยังขาดความยับยั้งชั่งใจอีกด้วย
ทิปส์นี้ห้ามลืมเด็ดขาด
กินโปรตีนทุกมื้อ
ขอบอกว่าจริงๆ แล้ว คนผอมบางรายไม่ได้กินน้อยตามตัวเลย แต่มีหลายปัจจัยที่ทําให้ผอม นั่นคือเขาฉลาดเลือกทาน มื้้อเช้าที่ประกอบด้วยอาหารประเภทโปรตีน ที่ช่วยให้อิ่มนาน เร่งการเผาผลาญให้ทํางานดีขึ้น เกิดความสมดุลของระบบฮอร์โมนอินซูลินและกลูกาก้อนมากกว่า โดยสัดส่วนพลังงานจากโปรตีนควรอยู่ประมาณร้อยละ 30 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 40 และไขมันที่ดีอีกร้อยละ 30
- เติมสารอาหารประเภทโปรตีนในมื้อเช้าด้วยนมถั่วเหลือง ไข่ต้ม เนยถั่ว เนยอัลมอนด์ ปลานึ่ง เต้าหู้ เป็นต้น
- ไม่เพียงแต่มื้อเช้า อาหารทุกมื้อของคุณควรมีโปรตีนชนิดดี เช่น ไข่ขาว ปลา ไก่ไม่ติดหนัง เต้าหู้ หรือถั่วเป็นส่วนประกอบ
ลด ละ เลิกน้ำอัดลมและน้ำหวาน
รู้ไหมคะว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทุกวัน แม้เพียงวันละ 1-2 แก้ว ก็เหมือนการ หยอดเหรียญใส่กระปุก ส่งผลให้ร่างกายสะสมแคลอรี่ส่วนเกินทุกวัน น้ำหนักจึงเพิ่มขึ้นทุกปี งานวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ชาวอเมริกันอ้วนขึ้นมากในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งได้แคลอรี่จากอาหารเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 300 แคลอรี่ต่อวัน และร้อยละ 43 ของแคลอรีส่วนเกินนั้นมาจากน้ำหวานและน้ำอัดลม โดยน้ำอัดลม 1 กระป๋องจะให้พลังงานราว 250 แคลอรี่และให้น้ำตาลมากถึง 16 ช้อนชา
อย่าลืมคอยถามตัวเองว่าอิ่มแค่ไหนแล้ว เมื่อเรากินอาหารเข้าไป ตัวรับสัญญาณการขยายของกระเพาะอาหารจะส่งสัญญาณบอกสมองส่วนไฮโปธาลามัส หรือส่วนที่คอยกระตุ้นความหิว-อิ่ม เพื่อให้สมองสั่งการให้เราหยุดทาน แต่กว่าสัญญาณจะถูกส่งถึง มักใช้เวลาโดยเฉลี่ย 15-20 นาที การทานช้าๆ และคอยถามความรู้สึกตัวเองว่าร่างกายเราได้รับอาหารเพียงพอหรือยัง คือสิ่งที่ควรทำที่สุดค่ะ