ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า  หลังอาร์เอสประกาศเดินหน้าปรับโมเดลธุรกิจเพลงใหม่ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการเสพเพลงของคนฟังที่มีการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยวางกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งแอนด์เซอร์วิส แบบครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย

พร้อมสร้างมูลค่าต่อยอดทางธุรกิจเพลงในทุกรูปแบบกับศิลปินเบอร์ต้นๆ ซึ่งมีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ศิลปินอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมลงทุนผลิตผลงานเพลงในลักษณะกึ่งพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น ทำให้สามารถดูแลรักษาคุณภาพ และมาตรฐาน

ตลอดจนพัฒนาตัวเองกับการทำงานสม่ำเสมอ ซึ่งศิลปินส่วนใหญ่ต่างให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์กร และทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมขานรับนโยบายวางแผนออกซิงเกิ้ลกันข้ามปี

อาทิ จ๊ะ อาร์สยาม, กระแต อาร์สยาม, ใบเตย อาร์สยาม, จินตหรา พูนลาภ อาร์สยาม, เบิ้ล ปทุมราช-ธัญญ่า อาร์สยาม รวมถึงที่ปล่อยเอ็มวีส่งท้ายปีไปแล้วอย่าง เดือนเพ็ญ อำนวยพร อาร์สยาม, รักแท้ อาร์สยาม

โดยศิลปินสาวเซ็กซี่ จ๊ะ อาร์สยาม ได้ให้ความเห็นว่า “ หนูเห็นด้วยกับแนวทางธุรกิจเพลงแบบใหม่มาตั้งนานแล้วค่ะ เพราะคิดว่าเป็นการเดินไปด้วยกันระหว่างค่ายกับศิลปิน ไม่ใช่ปล่อยให้ค่ายลงทุนฝ่ายเดียว เพราะหนูเชื่อว่าการที่เราได้ลงเงินจะทำให้เราคิดเยอะขึ้น คัดสรรเพลงที่ดีมากขึ้น

 และเชื่อว่าด้วยระบบนี้ จะทำให้ต่อไปนี้จะมีแต่เพลงที่มีคุณภาพออกมา เพราะศิลปินจะได้เลือกเพลงที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ส่วนตัวหนูเองค่อนข้างโชคดีที่มีสินค้าช่วยสนับสนุน แต่หนูก็มีส่วนร่วมในการออกแนวคิดเพื่อให้ได้เพลงที่เหมาะสมทั้งกับตัวเรา และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าด้วยค่ะ ”

ส่วนหมอลำสาวดาวค้างฟ้าอย่าง เดือนเพ็ญ อำนวยพร อาร์สยาม ที่พึ่งปล่อยเอ็มวี จะรักเธอจนสิ้นใจ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ พี่น้อยเข้าใจในสถานการณ์ของวงการเพลงนะคะ และเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีการลงทุน ซึ่งในระบบใหม่นี้ก็ทำให้เราสามารถวางแผนช่วงเวลา และเลือกเพลงที่ดีที่สุดสำหรับเราได้ และยังขอให้น้องๆ ในวงหมอลำเดือนเพ็ญ อำนวยพร มาร่วมถ่ายทอดมิวสิควิดีโอเอง พี่น้อยเชื่อว่าถ้าเรายังรักในเสียงเพลง เราก็ต้องสู้กันต่อไป สู้ตามความเปลี่ยนแปลงของโลกค่ะ ”

แม้โมเดลธุรกิจเพลงของ อาร์เอส อาจจะใหม่สำหรับใครหลายๆ คน แต่ถ้าหากมีความเข้าใจระหว่างบริษัทกับศิลปินแล้ว ธุรกิจเพลงก็จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องอย่างแน่นอน

เรื่องน่าสนใจ