เครื่องสำอางปลอม ทะลักตลาด ปคบ.จับแหลกอ้าง ยันฮี-นิติพล

สินค้าเสริมความงาม-เครื่องสำอางปลอม ทะลักตลาด แบรนด์เกาหลีฮอตฮิต! ถูกจีนสวมรอยเจาะ ตลาดรากหญ้า เผยมีเงินทุน แค่ 1,000 บาท ก็เปิดหน้า ร้านขายผ่านเน็ตได้ พบย่าน “สำเพ็ง-ประตูน้ำ” แหล่งขายส่งใหญ่ บก.ปคบ.หวั่นสินค้ากระทบผู้บริโภคระบาดหนัก

จากการสอบถามพบว่า แหล่งขายส่งเครื่องสำอางราคาถูกในปัจจุบันมาจากย่านสำเพ็ง ประตูน้ำ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีส่วนที่ทำตลาดผ่านเว็บไซต์ บางรายระบุว่ามีราคาเริ่มต้นในการซื้อสินค้าไปเริ่มต้นเปิดร้านเพียง 1,000 บาท

ปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องสำอางในเกาหลีกว่า 300 แบรนด์ และเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยแล้วประมาณ 50-60 แบรนด์ แต่หากนับเฉพาะแบรนด์ที่นำเข้ามาขาย ทั้งผ่านร้านที่มีชื่อเสียง การจำหน่ายผ่านตัวแทนอิสระ คาดว่าจะมีการนำเข้ามาแล้วร่วม 200 แบรนด์

นายศิริพงษ์ พิณวุวรรณ ผู้บริหารร้าน Beauty Casmeั เปิดเผย ็สยามธุรกิจิ ว่า ตลาดร้านเครื่องสำอางยังคงเติบโตได้ด้วยดี โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางจากเกาหลี ซึ่งได้รับการยอมรับถึงคุณภาพและราคาที่ไม่แพง โดยส่วนตัวได้เข้ามาในธุรกิจนี้ประมาณ 1 ปี เนื่องจากมีญาตที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางเกาหลีอยู่แล้ว โดยต่อยอดมาเป็นร้านเครื่องสำอาง Beauty Cosmeั ปัจจุบันมีอยู่ 11 สาขา งบลงทุนประมาณ 4 แสนบาทต่อร้าน โดยวางทำเลย่านสถาบันการศึกษาเป็นหลัก มีสินค้ากว่า 100 รายการในร้าน

นอกจากนี้ยังรับปรึกษาให้กับผู้ที่สนใจเปิดร้านเครื่องสำอาง โดยนำสินค้าจากทางร้านไปจำหน่ายโดยมีร้านของลูกค้าที่เข้ามาสั่งสินค้า ประมาณ 50 แห่ง และยังมีผู้ที่สนใจเข้ามาสอบถามหรือปรึกษาธุรกิจร้านเครื่องสำอางอย่างต่อ เนื่อง

สำหรับการขยายตัวของร้านเครื่องสำอางในปัจจุบัน แม้จะมองเห็นว่า มีการกระจายอยู่ทั่วไป ทั่วทุกชุมชนและตลาดนัด แต่สามารถชี้วัดได้ด้วยคุณภาพ ซึ่งเครื่องสำอางระดับล่าง ที่มีราคาถูกมาก ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางจากจีน ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องสำอางที่คุณภาพต่ำ และมีราคาถูกมาก

แม้ว่า เครื่องสำอางเกาหลี จะมีราคาที่ไม่แพง หรือระดับหลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ถูกปลอมและทำราคาต่ำกว่า เนื่องจากเป็นกระแสที่ยังได้รับความนิยม เพราะผู้หญิงไทยเชื่อในคุณภาพและยอมรับราคาที่จับต้องได้ และมักมีผู้แอบอ้างว่าเป็นสินค้าหิ้วเข้ามา หรือรับมาโดยตรงจากโรงงาน ทำให้ลูกค้าหลงเชื่อ

และจากการระบาดของสินค้าปลอมไม่ได้คุณภาพที่ออกสู่ตลาด ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) จึงได้เข้มงวดในการตรวจจับสินค้าดังกล่าวยิ่งขึ้น

โดยเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เป็นเครือข่ายตามโครงการตำรวจ ปคบ.ผู้รับใช้ชุมชนว่า ในย่านบางชันมีผู้ลักลอบจำหน่ายยา อาหารเสริมปลอมชื่อดัง และเครื่องสำอางแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลยันฮีส่งขายให้ลูกค้าทั่วประเทศ จึงได้สั่งการให้ กก.4 บก. ปคบ.จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำการสืบสวนจนทราบสถานที่ที่แน่ชัด

ต่อมาได้นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรีเข้าทำการตรวจบ้านเลขที่ 15/66 หมู่บ้านนลินเรสซิเดนซ์ ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางซัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ พบนายสุรชัย ยอดยา อายุ 41 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน ผลการตรวจค้นพบยาปลอม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอม ผลิตภัรฑ์เสริมอาหารไม่มีเลข อย. เครื่องสำอางไม่มีเลขจดแจ้งโดยแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลยันฮี

นอกจากนี้ ยังพบเครื่องสำอางใช้เลขจดแจ้งของผู้อื่นหลายรายการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมของผู้อื่น เช่น ยาแผนโบราณ ยี่ห้อเกร็กคู ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ Beta- Curve ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ LIPO 8 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ ซัน คาร่า

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ตรวจค้นพบว่าไม่มีเลขจดแจ้งเป็นการแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลยัน ฮีคือ ชุดครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อ หมอยันฮี กล่องสีฟ้า และกล่องสีเขียว นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขจดแจ้งเป็นการแอบอ้างชื่อผู้อื่นอีก ได้แก่ ชุดครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อหมอปัญญา ชุดครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อ หมอนิติพล และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เลขจดแจ้งปลอมของผู้อื่น ได้แก่ ชุดครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อ ซุปเปอร์ บลิ๊งค์

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ตรวจค้นพบว่าไม่เคยได้รับอนุญาตจาก อย. ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ BB Maxx และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ Gluta 9000

พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยกับ ็สยามธุรกิจิว่า ขณะนี้พบผลิตภัณฑ์ที่มีการปลอมมากที่สุดคือ ยาแผนโบราณ ยี่ห้อเกร็กคู ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงหลอดเลือดและเสริมสมรรถภาพทางเพศ และชุดครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อ ็หมอยันฮีิ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ในตอนนี้ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เริ่มมีการปลอมออกสู่ท้องตลาดกันบ้างแล้ว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อ LIPO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เผาผลาญ ดักจับไขมันที่ผลิตขายจำนวนจำกัด

“ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อ หมอยันฮี และหมอนิติพล ที่มีการปลอมอย่างแพร่หลาย เพราะผู้บริโภคซื้อไปใช้แล้วเห็นผลในไม่กี่วัน เนื่องจากมีมีส่วนผสมสารหน้าขาว ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ราคาขายส่งอยู่ที่ชุดละ 150 บาท ขายปลีกชุดละ 300 บาท แ ม้ว่าที่ผ่านมาตำรวจมีการตรวจจับอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีการลักลอบจำหน่ายยา อาหารเสริม และเครื่องสำอางปลอมเป็นจำนวนมาก จึงขอเตือนประชาชนเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนทุก ครั้ง”

ล่าสุดวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.สามารถจับกุมผู้จำหน่ายรายใหญ่ได้เพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ นางณฐมน นวลฉวี อายุ 37 ปี โดยจับกุมตัวได้ที่ล้านเลขที่ 124/333 หมู่ 4 ซอยเรวดี 24 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พร้อมเครื่องสำอางไม่มีเลขจดแจ้งยี่ห้อหมอยันฮี และซุปเปอร์ บลิ๊งค์ จำนวนมาก มูลค่าของกลางประมาณ 500,000 บาท โดยได้แจ้งข้อหา ็ขายเครื่องสำอางที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องิ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านเภสัชกรหญิง อภิชา กฤษณะเศรณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดโดซิน จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องสำอางยี่ห้อ ็หมอยันฮีิ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการปลอมผลิตภัณฑ์หมอยันฮีมากที่สุด ทั้งวางขายตามตลาดนัดและทางอินเตอร์เน็ต แต่หลังจากตำรวจมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตหันไปปลอมยี่ห้ออื่นแทน แต่ก็ยังใช้เลขจดแจ้งของหมอยันฮีอยู่ จึงขอเตือนผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าได้ที่โรงพยาบาล ร้านขายยา และตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น

ทางด้านนางสาวนิศาชล สังขประดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นิติพล คลีนิค ได้ฝากถึงประชาชนว่า ช่วงนี้มีพบว่ามีการปลอมผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าของนิติพล คลีนิก มากที่สุด ใช้ชื่อว่า ็หมอนิติพลิ มีการขายเป็นแพ็กเกจ และวางจำหน่ายตามตลาดนัด เปิดท้ายขายของ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นของปลอมแน่นอน เพราะผลิตภัณฑ์แท้ของนิติพล คลีนิก มีวางจำหน่ายคลีนิคนิติพลเท่านั้น และไม่มีการจัดเป็นชุดขายแต่อย่างใด จึงขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าด้วยความระมัดระวัง

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ ปคบ.ได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เป็นเครือข่ายตามโครงการตำรวจ ปคบ.ผู้รับใช้ชุมชน ได้นำหมายจับกุมเข้าตรวจค้นจับกุมแหล่งเก็บซุกซ่อนและจำหน่ายรายใหญ่ย่านบาง ซัน เขตคลองสามวา ยึดของกลางมูลค่ากว่า 1,500,000 บาท และสืบสวนจับกุมผู้จำหน่ายรายใหญ่เพิ่มเติมได้อีกรายที่ซอยเรวดี ยึดของกลางได้อีกร่วม 500,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 2,000,000 บาท

 

ขอบคุณที่มา http://goo.gl/Y2AyN

ขอบคุณภาพประกอบจาก อินเตอร์เนต

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ