เนื้อหาโดย Dodeden.com
แผนไดเอ็ทนี้ มีชื่อเรียกเหมือนชื่อเมืองอันเป็นแหล่งกําเนิดของมัน นั่นก็คือโอกินาวา มีรากฐานมาจากวิธีการกินของชาวโอกินาวา หนึ่งในกลุ่มคนที่มีอายุยืนที่สุดในโลก และมีค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกาย (BMI)) ค่อนข้างต่ำ และแผนไดเอ็ทนี้ ไม่ได้รับรองว่าคุณทําแล้ว จะมีอายุยืน 100 ปี แต่เป็นแผนที่ดีสําหรับคนที่อยากลดน้ำหนักด้วยโภชนาการที่สมดุล
จำกัดแคลอรี่แต่ไม่หิว
การจํากัดแคลอรี่สําคัญมาก แต่คุณไม่จําเป็นต้องรู้สึกหิวโหย มีรายงานว่าชาวโอกินาวากินน้อยกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไป 500 แคลอรี่ แต่แคลอรี่ที่เขารับ กลับอุดมด้วยสารอาหาร แต่ทําให้อิ่มแค่ 80% เท่านั้น แผนการไดเอ็ทแบบนี้จึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน คือประมาณ 8 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเข้ากับไลฟ์สไตล์ดังกล่าว โดยน้ำหนักจะค่อยๆ ลดลง รวมเป็นประมาณ 4 กิโลกรัมหากคุณทำสําเร็จ (ต่อเดือน) ยังไงก็ตาม การออกกําลังกายนั้นยังสําคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือการเดิน จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ปริมาณเท่าเดิม แต่แคลอรี่ลดลง
เมื่ออาหารมีจํานวนเท่าเดิม แต่แคลอรีลดลง คำตอบจึงอยู่ที่ประเภทของอาหารที่กินเข้าไปนั่นเอง แต่ละมื้อจะต้องประกอบด้วยอาหาร 4 กลุ่มคือ O
ชาวโอกินาว่า นิยมทานอะไร เพื่อการไดเอ็ทบ้างนะ?
เต้าหู้
สิ่งนี้ฮิตติดอันดับ เปรียบเหมือนขนมปังของชาวยุโรปเลยทีเดียว ซึ่งเป็นร้อยปีมาแล้วที่ชาวโอกินาวากินเต้าหู้มากกว่าที่ชาวอเมริกันกินกันทุกวันนี้ถึง 8 เท่า เต้าหู้รู้กันว่าช่วยปกป้องโรคหัวใจ มีการวิจัยชี้ว่า กลุ่มคนที่กินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองแทนที่เนื้อ มีปริมาณคอเลสเตอรอลและระดับไตรกลีเซอไรด์ต่ำ ทําให้ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ
เห็ดชิตาเกะ
เห็ดกลิ่นไหม้ๆ ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปตามเนินเขาของโอกินาวานี้ นอกจากช่วยเติมรสชาติให้ซุปมิโซะและอาหารจานผัดเเล้ว ยังมีส่วนผสมกว่า 100 ชนิด ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ถ้าหากซื้อแบบแห้งมา ก็สามารถเอามาแช่น้ำก่อนจะเอาไปปรุงอาหารได้ แถมคุณค่ายังอยู่ครบอีกด้วย
ข่า
ข่าได้ฝังตัวอยู่เหมือนเป็นเครื่องปรุงในอาหารทั่วไปของโอกินาวา แม้กระทั่งต้มกินกับชา ข่าไม่เพียงมีสารที่ช่วยเรื่องชะลอริ้วรอยได้เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันมะเร็ง และลดอาการอักเสบต่างๆ แถมยังมีสาร Curcumin ที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ช่วยยืดอายุการทํางานของสมอง ให้ปลอดโรคความจําเสื่อม นี่อาจเป็นสาเหตุที่ว่า ทําไมชาวโอกินาวาถึงมีคนเป็นโรคอัลไซเมอร์ตอนสูงอายุน้อยกว่าอเมริกาหลายเท่า
มันหวาน
มันเปลือกสีม่วงนี้ ถือเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เป็นพี่น้องตระกูลเดียวกับมันฝรั่งเหลืองและส้ม มันรสหวานอร่อยของโอกินาวาที่มีชื่อว่าไอโมะ (Imo) นี้ ไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเหมือนกับมันฝรั่งเหลืองทั่วไป ใบก็สามาถนำมาต้มในซุปมิโซะได้ แถมยังมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งริ้วรอยได้
ข้าวกล้อง
ผู้สูงอายุในโอกินาวา นิยมกินข้าวทุกวัน โดยเน้นข้างกล้องซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าวขาว ข้าวกล้องของโอกินาวามีรสชาติดีกว่าข้าวกล้องทั่วไป และกรรมวิธีการหุงก็จะเขย่าในน้ำก่อน จนคุณค่าเอนไซม์ของข้าวกระจายออกมา และช่วยลดน้ำตาลและโปรตีนที่สะสมในร่างกายได้ วิธีนี้ยังทำให้ได้ข้าวหวานและนุ่มขึ้นด้วย
สาหร่าย (คอมบุและวากาเมะ)
สาหร่าย 2 ประเภทนี้ พบได้ทั่วไปในโอกินาวา เป็นแหล่งพลังงานที่ทําให้อิ่มและมีแคลอรี่ต่ำ มักกินกับซุปหรือสตู มีสารคาโรทีนอยด์, โฟเลต, แม็กนีเซียม, ธาตุเหล็ก และไอโอดีน นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมสําคัญ 6 ชนิด ที่พบเฉพาะพืชในทะเล ที่ช่วยทําหน้าที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ลึกถึงในระดับเซลล์เลย ซึ่งทุกวันนี้ เราก็สามารถหากินกันได้ง่ายๆ ในรูปแบบอบแห้ง
แผนไดเอ็ทนี้ นอกจากช่วยลดน้ำหนัก โภชนาการที่ดียังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จํากัดแคลอรี่ แต่ร่างกายไม่เสียสมดุล และสามารถยึดติดไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ เนื่องจากทําได้ไม่ยาก แต่ไม่เหมาะกับคนใจร้อนที่อยากลดน้ำหนักเร็วๆ เพราะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และหากคุณตัดสินใจจะกินอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ก็ต้องระวังปริมาณโซเดียมที่จะมีผลกับความดัน โรคไต และหลอดเลือดหัวใจด้วยนะคะ