จากกรณี เจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ลดความอ้วนของบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก จากนั้นได้อายัดของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้าน หลังตรวจพบสาร “ไซบูทรามีน” Sibutramine ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพเจือปน สั่งให้หยุดจำหน่ายทั้งทางเฟซบุ๊กและสื่อออนไลน์

รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม ได้เผยถึงอันตรายจาก “ไซบูทรามีน” ว่า ตัวยาดังกล่าว ถือเป็นยาลดความอ้วน ที่ออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกไม่อยากอาหาร

Depositphotos_21525441_original

 

ทั้งนี้ ตัวยาดังกล่าว ไม่มีการจดทะเบียนในประเทศไทยแล้ว แต่เดิมทาง อย. จะถอนทะเบียนยาดังกล่าวออก เนื่องจากมีผลข้างเคียงกับคนที่เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดต่างๆ แต่ทางบริษัทผู้ผลิตได้ขอถอนทะเบียนยาดังกล่าวออกเอง

“ยาตัวนี้ออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง หากมีการรับประทานมากๆ ติดต่อกันนานๆ ก็อาจจะส่งผลให้มีอาการประสาทหลอน ส่วนจะออกฤทธิ์ช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล กินแล้วหลายคนอาจจะรู้สึกคล้ายการติดยา

เพราะจะรู้สึกว่าต้องกินอยู่เรื่อย ใครที่ครอบครองยาตัวนี้ จะถือว่าผิดกฎหมาย เพราะ อย.ไม่อนุญาตให้ขาย ถ้าเอาเข้ามาจำหน่าย เท่ากับจำหน่ายยาที่ไม่มีทะเบียน คนขายจะโดนข้อหาขายยาไม่อนุญาตด้วย”

นายกสภาเภสัชกรรม ยังเตือนอีกว่า ยาตัวนี้เขานิยมแอบผสมอาหารเสริม โดยอ้างสรรพคุณลดความอ้วน ส่วนมากก็เติมยาพวกนี้ลงไป โดยจะออกฤทธิ์ต่อประสาทคล้ายๆ กับยาม้า ที่สมัยก่อนเขากินกัน

นอกจากนี้ เภสัชกร กิตติ ยังฝากเตือนถึงการกินยาดักไขมันอีกด้วยว่า การกินยาดักไขมัน จะมีผลกับกล้ามเนื้อ อาจจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อฝ่อ กล้ามเนื้อสลายไปได้ บางคนที่กินแล้วแพ้ จะแสดงผลชัดเจน คือ ทำให้ปวดเมื่อย

ร่างกาย ตอนเช้าๆ จะลุกจากที่นอนไม่ค่อยขึ้น ถ้าเห็นผลแบบนี้ แสดงว่าแพ้ยาดักสลายไขมัน บางคนที่กินอาจจะไม่รู้ คิดว่าแค่ปวดเมื่อยปกติ ส่วนคนที่กินแล้วไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโอเค เพราะช่วยลดไขมันได้ ถามว่าควรกินหรือไม่ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องทฤษฎี เพราะเราถือว่าเราดูแลตัวเองได้ โดยไม่ต้องใช้ยา แค่ระวังเรื่องอาหารการกิน หมั่นออกกำลังกาย ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่ากินดีกว่า เพราะบางตำรายังบอกว่า ยาดักไขมัน ก็ไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้

“ถ้าต้องการลดความอ้วนจริงๆ ก็แค่ลดอาหาร และออกกำลังกาย หากจำเป็นต้องใช้ยา ก็ควรจะไปปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาในอินเทอร์เน็ต ไม่น่าเชื่อถือเลย

เพราะมันผิดกฎหมาย ที่สำคัญ ยาที่ซื้อมาเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นยาจริงหรือปลอม หากจำเป็นต้องซื้อจริงๆ ควรซื้อจากร้านที่ใบอนุญาตชัดเจนดีกว่า”นายกสภาเภสัชกรรม กล่าว

ส่วน คนที่กินยาลดความอ้วนที่มีตัวยาดังกล่าวผสมอยู่ 2 ราย โดยทั้งสองรายยอมรับว่า หลังจากรับประทานอาหารที่มีตัวยาดังกล่าวผสมไม่นาน น้ำหนักก็เริ่มลด โดยเห็นผลเร็วจริง เพราะไม่รู้สึกอยากอาหาร แต่ก็จะเกิดอาการข้างเคียงคือ รู้สึกปวดหัว อีกราย จะมีอาการปากซีด

ที่มา ไทยรัฐ

เรื่องน่าสนใจ