เตือนใจ! หญิงมะกันต้องตัดมือ-เท้า รักษาชีวิต หลังเสริมบั้นท้ายเถื่อน

545538_308825255892144_932083602_n

เอพริล มิเชล บราวน์ อดีตช่างทำผมจากลอสแอนเจลิสวัย 46 ปี ปัจจุบันต้องอยู่ในสภาพมือเท้ากุดพิการ สาเหตุเพียงเพราะความอยากสวย เธออยาจะมีบั้นท้ายงามงอนกลมกลึงเหมือนคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง

จากการรายงานของเว็บไซต์เดอะซัน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม เอพริลบอกว่า เธอ มีปมด้อยเรื่องบั้นท้ายแบนราบมาตั้งแต่เด็ก และโดนล้ออยู่เสมอว่าก้นแบนเป็นแพนเค้ก จนเป็นปมฝังใจว่าสักวันเธอจะต้องมีบั้นท้ายงามงามกลมกลึงสวยให้จงได้ จน วันหนึ่งในปี 2004 ลูกค้าผู้หญิง 2 รายมาใช้บริการทำผมที่ร้านของเธอ และได้พูดคุยกันจนรู้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นหมอกระเป๋า ที่รับฉีดซิลิโคนเสริมสัดส่วนให้ผู้ป่วยตามบ้าน แน่นอนว่าเธอไม่ใช่แพทย์ จริง ๆ ไม่มีใบอนุญาต แต่กลับเดลิเวอรี่บริการทำสวยส่งให้ถึงบ้าน และหญิงอีกคนที่มาด้วยก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอซึ่งเสริมบั้นท้ายมา ซึ่งเอพริลบอกว่าเธอคนนี้ดูดีมากทีเดียว

ในตอนนั้นเอพริลไม่ลังเลใจเลยที่จะตอบตกลงขอเสริมบั้นท้ายกับเธอทันที โดยไม่แม้แต่จะศึกษาข้อมูลสักนิดเดียว ด้วยความอยากสวย ความไว้ใจแบบผิด ๆ เพราะหมอเถื่อนคนนั้นพูดจาน่าเชื่อถือเหลือเกิน ทำให้การตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ทีจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาลเกิดขึ้น

และแล้วการเธอก็ได้ฉีดซิลิโคนครั้งแรก ตามมาด้วยครั้งที่สองในเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง ทั้งสองครั้งนี้เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 650 ดอลลาร์ (ราว 19,500 บาท) ซึ่ง หมอเถื่อนแนะนำว่าเธอควรจะทำ 3-4 ครั้งจึงจะเห็นผล อย่างไรก็ดี อาจจะมีโชคหลงเหลืออยู่ในการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปบ้าง หลังฉีดครั้งที่สอง เอพริลก็พลันฉุกคิดกับตัวเองได้ว่านี่เธอกำลังทำอะไรอยู่ เธอกำลังฉีดสารแปลกปลอมอะไรเข้าไปสู่ร่างกาย เธอจึงไม่ได้ติดต่อขอฉีดเข็มที่สามอีกเลย

แต่หากจะว่าความคิดนี้เป็นความโชคดี โชคที่ว่านี้ก็อาจจะยังไม่ดีเพียงพอ เพราะไม่กี่เดือนหลังการฉีดซิลิโคนเสริมก้น เธอก็รู้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นแล้วแน่ ๆ เนื้อที่บั้นท้ายของเธอแข็งและกระด้างขึ้นอย่างน่าประหลาด แต่ความอายก็ทำให้เธอไม่กล้าเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาอย่างจริงจัง จนเมื่อ เวลาล่วงเลยไปอีก เนื้อที่ก้นของเธอแข็งและด้านขึ้นเรื่อย ๆ คล้ำจนดำ เกิดลักษณะบุ๋มผิดปกติ ทั้งยังมีอาการปวดแสบปวดร้อนจนทนแทบไม่ไหว เอพริลจึงพาตัวเองไปพบหมอในที่สุด

          สุดท้ายแล้วเธอก็ทราบจากแพทย์ว่า ซิ ลิโคนที่อยู่ในร่างกายเธอนั้นหาใช่เกรดเพื่อการศัลยกรรม แต่เป็นเพียงซิลิโคนยาแนวที่ช่างใช้อุดรูรั่วไม่ให้น้ำซึมที่มีวางขายทั่วไป นี่เอง และตอนนี้เนื้อเยื่อของเธอก็กำลังออกอาการต่อต้านสารตัวนี้อยู่ แต่แพทย์ก็ไม่สามารถผ่าตัดเพื่อนำสารแปลกปลอมที่ว่านี้ออกไปได้ เพราะมันอันตรายกับเธอมากเกินไป

เอพริลต้องทนอยู่ในสภาพที่ว่านี้นานถึง 4 ปีเต็ม เธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา เธอบอกว่ามันเจ็บสาหัสสากรรจ์เหมือนเป็นทั้งไมเกรน ปวดฟัน และเจ็บท้องคลอด ไปปวดกระจุกอยู่ที่เดียวพร้อม ๆ กัน เธอตัดสินใจว่ายอมทำทุกอย่างเพื่อยุติความทรมานนี้ จะทำอะไรก็ได้ แม้จะตัดก้นทิ้งไปเลยเธอก็ยอม

เดือน กุมภาพันธ์ 2011 เอพริลเข้าผ่าตัดเป็นครั้งแรก แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก หลังการผ่าตัดบั้นท้ายของเธอเกิดเป็นโพรง ซึ่งคาดว่ามันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อลุกลามจนเข้าสู่ขั้นติดเชื้อร้ายแรง เดือนมิถุนายนเอพริลในอาการโคม่าถูกนำตัวเข้ารักษาเร่งด่วน ผ่านการผ่าตัดอีกร่วม 27 ครั้ง ในจำนวนนั้นคือการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อบั้นท้ายส่วนที่ถูกทำลายไปออกจนหมด ทำการปลูกถ่ายผิวหนังใหม่ รวมทั้งผ่านการผ่าตัดที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล นั่นคือการตัดมือและเท้าทั้ง 2 ข้างของเธอทิ้งไป เพราะหลังจากผ่าตัด บั้นท้ายแล้ว ปรากฏว่าเชื้อลุกลามไปยังมือและเท้า และกำลังจะเน่า เธอจึงจำต้องแลกอวัยวะสำคัญของร่างกายเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองให้อยู่รอด

  หลังผ่าตัด เอพริลที่พิการทั้งมือและเท้า ร้องไห้ให้กับความสูญเสียที่เกิดจากการตัดสินใจที่ไร้สติของตัวเอง นับจากนี้เธอไม่สามารถจะสัมผัสถึงเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้า หรือถักผมให้ลูกสาวได้อีกต่อไป แต่เมื่อเธอผ่านช่วงที่อ่อนแอและอ่อนไหวที่สุดมาได้ เธอ ก็ตัดสินใจว่าจะต้องอยู่กับชีวิตใหม่ด้วยอวัยวะเท่าที่ยังเหลืออยู่ให้ได้  เอพริลฝึกซ้อมเล่นไตรกีฬา (วิ่ง ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ) เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดความพิการของตัวเอง และเธอก็ทำมันได้สำเร็จ ในตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเธออยู่ต่อไปได้อย่างแข้มแข็งและมั่นใจ

ณ วันนี้ เอพริลบอกว่า เธอไม่โทษหมอกระเป๋าคนนั้น ไม่คิดจะตามหาหรือเรียกร้องค่าเสียหาย แต่เธอโทษความโลภที่จะสวยและความยั้งคิดของตัวเอง เธอ เชื่อว่าที่การที่เธอได้ชีวิตรอดคืนมา ก็เพื่อจะได้อยู่แล้วคอยบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองไปเตือนสติผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่คิดจะสวยทางลัดกับหมอเถื่อน และซิลิโคนเถื่อน หรือวัสดุไร้คุณภาพอะไรก็ตาม ว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเลยแม้แต่นิดเดียว

   “ฉันอยากให้ผู้หญิงทุกคนตระหนักถึงความอันตรายของตลาดศัลยกรรมเถื่อน เราต่างเกิดมาครบ และเพอร์เฟคท์ในตัวของตัวเองอยู่แล้ว ได้โปรดเรียนรู้ที่จะรักและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น” เอพริลกล่าว

ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  เฟซบุ๊ก Apryl Michelle Brown

เรื่องน่าสนใจ