ที่มา: Springnews

ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตหลังความตายเกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของวิญญาณ จึงมีการการถนอมและรักษาสภาพศพไว้ หรือที่เรียกกันว่า มัมมี่ 

อียิปต์มีความเชื่อว่าเมื่อมีผู้เสียชีวิต วิญญาณออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง และจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของในเวลาต่อมา จึงมีการถนอมและรักษาสภาพของร่างเดิมโดยการ แช่และดองด้วยน้ำยาบีทูมินซึ่งจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้ซากศพเน่าเปื่อย ผุผังไปตามกาลเวลา โดยขั้นตอนนั้นจะนำศพของผู้ตายมาทำความสะอาด ล้วงเอาอวัยวะภายในออกโดยเหลือหัวใจไว้ สาเหตุที่ไม่เอาหัวใจออกจากร่างด้วยเพราะเชื่อกันว่าหัวใจเป็นศูนย์รวมแห่ง จิตวิญญาณ อวัยวะภายในเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยวัสดุประเภทขี้เลื่อย เศษผ้าลินิน โคลน และเครื่องหอม จากนั้นอวัยวะทั้งหมดจะถูกนำไปล้างด้วยไวน์ปาล์ม เสร็จแล้วก็จะถูกนำลงบรรจุในภาชนะสี่เหลี่ยมมีฝาปิดที่รู้จักกันในชื่อของ คาโนบิค ส่วนร่างของผู้ตายจะถูกนำไปดองโดยใช้เกลือประมาณ 7-10 วัน

56

เมื่อศพแห้งสนิทแล้วก็จะถูกนำมาเคลือบด้วยน้ำมันสน จากนั้นจะมีการตกแต่งและพันศพด้วยผ้าลินินสีขาวชุบเรซิน มัมมี่ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะถูกนำบรรจุลงในหีบศพ พร้อมกับเครื่องรางของขลังต่างๆ และมัมมี่บางตัวยังมีหน้ากากที่จำลองใบหน้าของผู้ตายวางไว้ในหีบศพของมัมมี่ จากนั้นก็จะนำไปฝังในพีระมิดก็เป็นการเสร็จสิ้นวิธีการทำมัมมี่

เรื่องของการมีชีวิตหลังความตายนั้น ไม่ได้มีแค่ในตำนานมัมมี่อย่างเดียว แม้แต่กระทั่งหนัง Hollywood ก็มีการนำเสนอเกี่ยวกับการแช่ร่างกายเพื่อให้ฟื้นคืนชีพด้วย อย่างเรื่อง Captain America จะมีฉากที่ตัวพระเอก สตีฟ โรเจอร์ส (Steve Rogers) จากชายหนุ่มผู้บอบบางได้รับการเปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นยอดมนุษย์ ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อสู้กับเหล่าร้ายจนตัวเองตกลงไปในมหาสมุทร ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง กระทั่งเหล่า the Avengers ได้ค้นพบร่างของ Steve Rogers ที่ North Atlantic ในสภาพสมบูรณ์สุดๆ แบบยังยืนถือโล่อยู่ด้วย เขาได้ถูกปลุกขึ้นมาในยุคปัจจุบันอีกครั้งและแน่นอนด้วยความเป็นผู้นำและ ความสามารถของเขาทำให้เขากลายเป็นผู้นำของ Avengers ไปในที่สุด

เรื่องน่าสนใจ