เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มผู้ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์กและเว็บบอร์ดต่างๆ ตามเว็บไซต์ดังหลายแห่งมีการนำเสนอข้อมูลว่า มีบุคคลแอบอ้างชื่อ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ดารานักแสดงตลกชื่อดัง เปิดแฟนเพจในโซเซียลสุดฮอตอย่างเฟสบุ๊ก

222

โดยใช้ชื่อว่า “โน้ต อุดม แต้พานิช” ซึ่งมีเนื้อหาพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับ “โน้ส-อุดม” ในอริยาบถต่างๆ รวมถึงกิจกรรมที่ดาราตลกรายนี้ได้ทำมาในช่วงเวลาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการโพสต์รูปภาพกิจกรรมทางการเมืองรวมถึงคำหยาบคาย และแชร์ภาพผู้ป่วย หรือเด็กด้อยโอกาส ที่มีการให้ผู้สนใจร่วมสมทบทุนบริจาคเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ด้วย โดยการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวนั้นมีการโพสต์ไว้แล้วราว 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังหน้าแฟนเพจดังกล่าว พบว่ามีการปิดตัวลงไปแล้ว ส่วนเฟสบุ๊กของ “โน้ส-อุดม” ของจริง คือ “เดี่ยว 9” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคน ยังเปิดตามปกติ และเมื่อติดตามหาเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จนทราบว่าเรื่องดังกล่าวพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.กำลังตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากเมื่อราวเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นายรวิน วงศ์วิริยะ ผู้จัดการส่วนตัวของ “โน้ส-อุดม” รับมอบอำนาจจากดาราตลกชื่อดัง ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างนำชื่อ พร้อมภาพประกอบไปทำแฟนเพจรวมถึงมีการโฆษณาชวนเชื่อ หลอกหลวงให้ผู้มากดไลท์ติดตามมากถึง 188,976 ไลท์

โดยแฟนเพจปลอมดังกล่าว ได้เชิญชวนคนที่มาติดตาม ให้บริจาคเงินช่วยเหลือในกิจกรรมการกุศลต่างๆและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก เด็กด้อยโอกาส และจำหน่ายสินค้าต่างๆ ด้วย เป็นการนำกิจกรรมต่างๆ มาสวมรอยรับผลประโยชน์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ดาราตลกชื่อดังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำภาพของเด็กคนหนึ่ง ที่ตกทุกข์ได้ยาก

ซึ่งทางบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงใจบุญ เคยโพสต์ภาพช่วยเหลือไปแล้ว นำมาเผยแพร่ซ้ำ แต่ได้เปลี่ยนเลขที่บัญชีธนาคารไปจากเดิม ทำให้ผู้ที่ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์กเกิดความสงสัยและตรวจสอบจนพบความเป็นจริงว่า แฟนเพจดังกล่าวเป็นของปลอมไม่ใช่ของดาราตลกชื่อดังแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ “โน้ส-อุดม” ถึงกรณีดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามทางนายรวิน วงศ์วิริยะ ทราบว่าทาง “โน้ส-อุดม” ได้มอบหมายให้ตนเข้าไปแจ้งความที่ บก.ปอท.จริง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ อีกทั้งทาง “โน้ส-อุดม” ก็ไม่อยากให้เป็นข่าวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เรื่องดังกล่าวทาง “โน้ส-อุดม” และทีมงานทราบข่าวมาระยะหนึ่งแล้วว่ามีบุคคลไม่หวังดี นำชื่อและภาพ ไปเปิดแฟนเพจ จนทำให้มีบรรดาแฟนคลับ และประชาชนทั่วไปเข้าไปติดตามกดไลท์ ผ่านหน้าเพจดังกล่าวมากถึง 188,976 ไลท์ด้วยกัน

โดยก่อนหน้าที่จะเข้าแจ้งความนั้น ทางดาราตลกชื่อดังและทีมงาน พยายามติดต่อทางผู้ทำเพจซึ่งทราบว่าเป็นชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว แต่กลับถูกหญิงวัย 39 ปี อ้างเป็นผู้ปกครองของหนุ่มวัย 17 ปี ต่อรองว่า หากต้องการให้มีการปิดหน้าเพจดังกล่าว จะต้องมีการโอนเงิน 150,000 บาท ก่อน จะต่อรองกันเหลือ 120,000 บาท ทางคนทำหน้าเพจจึงจะยุติเรื่อง

โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้แจ้งเลขที่บัญชีธนาคารมาให้ผู้ที่ติดต่อไปด้วยทำให้ทาง “โน้ส-อุดม” และทีมงานร่วมกันปรึกษาฝ่ายกฎหมาย จึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์ รวมถึงเกรงว่าหากยังปล่อยให้แฟนเพจนี้เคลื่อนไหวอยู่ จะมีคนตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติมและอาจจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับตัวดาราตลกชื่อดัง และกิจกรรมการกุศลต่างๆที่ผู้ทำเพจปลอมนำมาแอบอ้างก็เป็นได้ รวมถึงต้องการแจ้งเตือนสังคมโซเซียลให้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมคนโกง และใช้งานอย่างระมัดระวัง พร้อมกับต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปด้วย

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พบเบาะแสเป็นหน้าเพจเปิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยชายคนหนึ่ง อายุ 17 ปี ใน อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และพบบัญชีธนาคารไทยพานิชย์อีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งชื่อเจ้าของบัญชีมีความสัมพันธ์เป็นลูกของหญิงคนที่ให้ทีมงานตลกชื่อดังโอนเงินให้ ทราบชื่อนายจิรายุทธ และนางทองใบ (ขอสงวนนามสกุล)

เบื้องต้นทางตำรวจ ปอท.เชื่อว่าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือ ลูกชายวัย 17 ปี โดยมีแม่วัย 39 ปี ให้การสนับสนุน จึงประสานไปยังตำรวจ สภ.ธวัชบุรีให้ช่วยสืบสวนจนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และล่าสุดตำรวจได้โทรศัพท์ไปเกลี่ยกล่อมให้ชายผู้ทำเพจยอมรับในความผิด และออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 10 พ.ย.นี้ที่ บก.ปอท.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนข้อหากรรโชกทรัพย์ต้องรอสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ที่มา เดลินิวส์

เรื่องน่าสนใจ