มีเรื่องให้อัพเดทแทบทุกวันจริงๆสำหรับนางเอกผลไม้ “แตงโม ภัทรธิดา” กับไอจีเจ้าปัญหา ที่ทำให้เกิดข่าวร้อนๆแซ่บๆ ตามมาไม่รู้กี่ข่าว ล่าสุดสาวแตงโมขอออกมาเคลียร์ข่าวฉาวต่างๆ ที่เกิดขึ้นแบบไม
หลากหลายประเด็นเลย เอาเรื่อง AR ก่อน
“สำหรับเรื่องไอจีก็จะมีหลายประเด็นหน่อย เรื่องแรกคือประเด็นของคุณ AR อันนั้นจบไปนานแล้วค่ะ ก็จบกันในนั้น ก็ไม่มีอะไร ค่อนข้างจะเงียบมานานแล้ว เพราะฉะนั้นขอเป็นเรื่องอื่นดีกว่าค่ะ”
หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงไปโพสแบบนั้น
“เพราะว่าจริงๆแล้วโมอาจจะคิดน้อยไปนิดนึง อันนี้ก็ต้องขอประทานอภัยจริงๆคือโมคิดว่าเราเป็นคนที่ยอมรับความจริง แล้วเราก็ขอโทษเป็น เป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ แต่ว่าบางที บางคนเขาอาจจะไม่ได้คิดเหมือนเรา โมลืมคิดตรงนี้ไป อย่างที่บอกว่าคนเราไม่เหมือนกัน บางคนถนัดที่จะคุยแบบส่วนตัว บางคนถนัดที่ไหนก็ได้ โมก็ดันใช้มาตราฐานของตัวเองเลยคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนเรา เพราะฉะนั้นก็เลยเกิดความผิดพลาด เพราะฉะนั้นโมก็ต้องขอโทษอะไรที่มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่มันเกิดขึ้น”
กลัวจะกระทบกับงานของโตโน่หรือเปล่า
“โมว่าถ้าในรายละเอียดที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ได้รู้เรื่องจริงแล้ว มันไม่มีอะไรทุกอย่างจบไปนานแล้ว”
แต่คนกลับมองว่าโมสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยากดึงโตโน่กลับเข้าวงการ
“กระแสเนี่ยไม่เท่า ส่วนใหญ่จะมีแต่คนว่าโมสร้างกระแสเพื่อตัวเอง โมว่าโมก็อยู่ในวงการมานานระดับนึงแล้วเพราะฉะนั้นการที่จะอยู่ในกระแสจะสังเกตุได้ง่ายๆเลยว่าโมไม่จำเป็นต้องหวือหวาหรือเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต โมก็ถูกจับเข้าไปในกระแสเองอยู่แล้ว ตรงนั้นมันก็เป็นระบบหน้าที่ของมันอยู่แล้ว โดยที่โมไม่ต้องทำแบบนี้”
พอเป็นข่าวก็ทำให้คู่เราระหองระแหงด้วย
“จริงๆแล้วเรื่องนี้กับเรื่องที่งอนพี่โน่คนละเรื่องกัน แต่ว่าพี่โน่ไม่รู้หรอกว่าโมงอนเรื่องอะไร โมงอนโมก็อันฟอโล่ โมงอนกับเพื่อน งอนกับพี่โน่ หรืองอนกับใครโมก็ทำแบบนี้ คือมันมีหน่วยจับผิดอยู่แล้ว พอเวลาเราดีกันก็มาฟอโล่กันเหมือนเดิม ไม่มีอะไร เรื่องเลิกกันไม่มีค่ะ เพราะเราช่วยกันสร้างครอบครัวแล้ว เรื่องที่เราจะเลิกกันหรือแยกกันมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
กับเรื่องที่เกิดขึ้นโตโน่ได้เข้ามาตักเตือนโมด้วย
“ทุกคนก็เข้ามาตักเตือนโม บางทีเราก็อย่าเอามาตรฐานเรามาเป็นตัววัด เวลาที่เราจะทำอะไรบนไอจีเราพยายามคิดถึงว่าคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบเราก็ได้ แล้วมันจะส่งผลกระทบที่ตามมาเป็นลูกโซ่ เพราะฉะนั้นก็อยากให้โมพิจารณาหลายๆครั้งหลายๆรอบกว่าที่จะลงอะไรรในไอจี สำหรับไอจีโมก็ต้องขอโทษจริงๆค่ะ หลายๆครั้งโมคิดน้อย หลังจากนั้นโมก็ปรับปรุงตัวเองขึ้นมาอย่างเร็วมาก”
พอหมดเรื่องนี้ก็มีเรื่องโอปอล์อีก
“เรื่องพี่โอปอล์เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ เหมือนอย่างหนูกับพี่แซวกันอย่างเนี่ย อย่างที่บอกว่ามันจะมีหน่วยจับผิด หน่วยเหยียบย้ำอยู่แล้ว ตัวโมกับพี่ปอล์เราไม่มีอะไรเลย คนที่เป็นเอามาก คนที่เดือดร้อน แฟนคลับของเราทั้งสองคนไม่ต้องเป็นอะไร โมขอร้องว่าอย่าไปโจมตีอะไรใครๆเลย โมกับพี่ปอล์รู้จักกันมาเป็นสิบๆปี โมเข้าวงการมาไม่เท่าไหร่ก็รู้จักพี่ปอล์แล้ว ครั้งแรกที่โมรู้จักกับพี่โอปอล์เราแซวกันแรงกว่านี้อีก ซึ่งเมื่อก่อนโมไม่ได้ถูกเกลียดมากขนาดนี้ แต่พอทุกวันนี้โมมีครอบครัวโดยมีพื้นฐานจากคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะ เพราะฉะนั้นโมจะถูกจับตามอง อะไรโมก็จะผิดไปซะหมด อย่าที่พี่โอปอล์บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นมาแซวมันก็คงไม่เป็นอะไร พอเป็นโม โมผิดทุกเรื่อง โมคงต้องมีแท็กของตัวเองว่า แตงโมผู้คอมเม้นท์ใครไม่ได้”
มีแต่คนมองว่าโมคอมเม้นท์ระรานคนอื่น ส่วนตัวโมรู้สึกยังไง
“คำว่าระรานคือคนที่ทะเลาะกัน มีปัญหากันแล้วไม่จบ แต่ว่าโมไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เพราะฉะนั้นคำว่าระรานใช้กับกรณีนี้ไม่ได้”
เสียใจไหมที่คนมองแบบนี้
“เสียใจ โมเสียใจ โมรู้สึกว่าพอโมปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น โมดีขึ้นในหลายๆด้าน ถ้าใครที่ติดตามจริงๆจะเห็นได้ชัดว่าไอจีโมละเว้นเรื่องอื่นๆไปได้มาก แต่กาีที่เราคุยกับเพื่อนเรามันเป็นเรื่องปกติ แต่คนจะมองว่าโมเป็นจำเลยของสังคม โมก็ค่อนข้างเสียใจว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่เป็นไร พอเป็นโมแล้วโมผิดไปซะทุกเรื่อง วันนี้ก็ต้องขอบคุณที่มันมีข่าวดีๆ จากการอวยพร คือวันนี้วันเกิดไอซ์ อภิษฎา โมก็แฮปปี้เบิร์ดเดย์ไอซ์ แค่นี่ก็เป็นข่าวแล้วค่ะ โมเลยรู้สึกว่าหรือว่าโมไม่ค่อยได้ออกงานเลยต้องมีข่าวเป็นกระแสออกมาเพื่อให้โมรู้สึกทำอะไรไม่ได้ โมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นขออนุญาตพูดในสิ่งที่โมคิดจริงๆคือ พอโมเริ่มใกล้ชิดกับศาสนามากขึ้น พอโมเป็คริสเตียนที่ดี มารจะเริ่มทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามา การถูกยัดเยียดให้เป็นจำเลยของสังคม หรืออะไรก็ตามโมถือว่าเป็นบททดสอบของพระเจ้า ถ้าโมยังมีพระเจ้าในใจโมยึดหลัก รักคนที่ไม่น่ารัก โมก็จะผ่านมันไปได้ด้วยดี แล้วโมก็ทำมันได้ โมใจเย็นกว่าเมื่อก่อนมากๆ”
ได้เคลียร์กับโอปอล์หรือยัง
“โมพิมพ์ไปบอกว่าพี่โอปอล์ดูสิ เราทะเลาะกันโดยที่ไม่รู้ตัว โมพิมพ์ไปทางเฟซบุ๊กค่ะ พี่ปอก็บอกเออแกไม่ต้องคิดมาก ไม่มีอะไรเลย แกเอาเวลาไปตัดชุดมางานแต่งงานฉันดีกว่า เพราะฉันรักแกเหมือนเดิม มันไม่มีอะไร”
แตงโมจะไปงานแต่งด้วย
“ไปสิ ไม่ไปได้ไง คนรักกัน”
ตอนนี้โมใช้คำว่าสามีกับโตโน่แล้ว
“ตั้งแต่เรามอบชีวิตเราให้พระเจ้าดูแล อันนั้นคือการเริ่มใช้ชีวิตคู่แล้ว ก็แล้วแต่ใครจะเรียก เพราะมันมีข้อที่ขัดแย้งกันอยู่ ประเพณีชาวคริสเตียนเราใช้ได้ แต่คนไทยถ้ายังไม่จดทะเบียนสมรสเราใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครอยากเรียกอะไรก็เรียกเลยค่ะ”
ขอบคุณที่มา sanook.com