ที่มา: springnews

สาวอเมริกันคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมอง แต่ยังมีชีวิตรอดมาได้ เพราะใช้วิธีให้ไฟฟ้าฆ่าเซลล์มะเร็ง ทั้งที่โรคมะเร็งสมองที่เป็นอยู่ ถือว่ารุนแรงและอันตรายมาก ไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด และอาจมีชีวิตอยู่ได้แค่ 2 ปีเท่านั้น

Untitled

แพทย์ตรวจพบเนื้องอกก้อนเล็กๆ อยู่ที่สมองของเธอเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เธอมีอาการปวดศีรษะรุนแรง ตอนแรกคิดว่า เป็นไมเกรนระหว่างการตั้งครรภ์ แต่ท้ายสุดเนื้องอกที่สมองซีกซ้ายโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดเท่ากำปั้น

แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่ ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกไป จากนั้น รออีก 8 สัปดาห์ ให้ทารกน้อยในครรภ์แข็งแรงมากขึ้น จึงเริ่มใช้วิธีฉายรังสีและเคมีบำบัด แต่พอทำเคมีบำบัดไปรอบสอง ก็พบเนื้องอกก้อนใหม่ในสมองของเธอ จึงทำให้แพทย์เสนอวิธีทดลองใช้ไฟฟ้าฆ่าเซลล์มะเร็งในสมอง เธอจึงต้องสวมอุปกรณ์บางอย่างบนศีรษะ พัฒนาขึ้นโดยบริษัท โนโวเคียว ในสหรัฐ

01

อุปกรณ์ชุดนี้ จะปล่อยไฟฟ้าไปที่ศีรษะของคนไข้ ช่วยให้เซลล์มะเร็งหยุดการแบ่งตัว เมื่อเซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้ มันก็จะตายในที่สุด หลังใช้ไป 2 สัปดาห์ เนื้องอกที่สมองมีขนาดลดลง 30% และปัจจุบัน ก็ตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งในสมองอีกแล้ว ทั้งนี้ยังไม่มีการศึกษาผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใช้ไฟฟ้าฆ่าเซลล์มะเร็ง

แพทย์ที่เสนอให้ใช้วิธีนี้บอกว่า ทดลองให้คนไข้ที่เป็นมะเร็งสมองใช้วิธีนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีคนไข้ 43% รอดชีวิต ส่วนคนไข้ที่ไม่ได้ใช้วิธีนี้ มี 29% รอดชีวิต ตอนนี้ อุปกรณ์ที่ว่า ได้รับความเห็นชอบจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ให้ใช้รักษาคนไข้มะเร็งสมองได้แล้ว และก็มีคนไข้กว่า 2,000 คน ใช้อุปกรณ์ชุดนี้อยู่

เรื่องน่าสนใจ