ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ชีวิตลำบากตัดสินใจโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก วอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือ “น้องเจมส์” อายุ 5 ขวบ 5 เดือน เป็นเด็กเผือก พัฒนาการช้า ยังไม่เดิน พูดไม่ได้ ซ้ำร้ายทางบ้านมีฐานะยากจน แม่ทำงานหาเลี้ยงคนเดียวได้ค่าแรงวันละ 300 บาท

EyWwB5WU57MYnKOuXogROViI7ff41vRk41w2xpWOkzPMn4GijEoiC9

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ได้พบข้อความบนเฟซบุ๊ก โพสต์ระบุขอวานผู้ใจบุญ ช่วยเหลือเด็กเผือก โดยผู้โพสต์ข้อความ คือ นางสาวเกตุวดี บุญศัพย์ อายุ 26 ปี ข้อความที่โพสต์มีใจความว่า “น้องเจมส์” อายุ 5 ขวบ 5 เดือน เป็นเด็กเผือก พัฒนาการช้า น้องยังไม่เดิน ยังพูดไม่ได้เลยค่ะ สายตาและสีผิวโดนแสงแดดไม่ได้ น้องสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ชักบ่อย ต้องไปหาหมอที่เชียงใหม่ ทุกๆ 4 เดือน ทางบ้านมีฐานะยากจน อยู่กับแม่ ยายทวด และพ่อ น้องน่าสงสารมากค่ะ พ่อทำงานรับจ้างทั่วไป แม่ก็ต้องทำงานอีก

อยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญช่วยบริจาค เสื้อผ้า, แพมเพิส, นม จะมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ แล้วแต่กำลังที่จะให้ น้องรอคอยความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญอยู่ค่ะ ถ้าหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือจะดีมากเลยค่ะ แม่เขาไม่อยากหย่านมให้น้องเพราะกลัวน้องจะผอม ผู้ใจบุญท่านไหนต้องการช่วยเหลือน้อง เสื้อผ้า ,นม, แพมเพิส สามารถส่งแรงและกำลังใจมาได้ที่ : น.ส.เกตุวดี บุญศัพย์ บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 6 ต.แม่ยางฮ่อ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ 54140 โทร .096 262 1901

ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ซึ่งก็พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูงประมาณ 1.5 เมตร พบนางสาวเกตุวดี นั่งอยู่หน้าระเบียงพร้อมกับลูกชายคือเด็กชายพัชรพันธุ์ ภูมณี อายุ 5 ขวบ 5 เดือน ซึ่งเป็นเด็กเผือกทั้งตัว

นางสาวเกตุวดี บุญศัพย์ อายุ 26 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ลูกชายคลอดออกมา ก็มีลักษณะที่ผิดไปกับเด็กคนอื่นๆ คือทั้งตัวจะขาว และสมองการทำงานช้า ซึ่งตนก็ได้ขอความช่วยเหลือไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดแพร่ และทีมงานได้ลงมาช่วยเหลือ เมื่อปี 2553 กระทั่งนำไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่

มารดาของน้องเจมส์ กล่าวต่อว่า กระทั่งตนได้แยกกันอยู่กับสามีตอนลูกชายอายุได้ขวบกว่า ซึ่งยอมรับว่าลำบากมาก อีกทั้งเพิ่งได้เข้าทำงานโรงย้อมผ้าไม่กี่วัน ได้ค่าจ้าง 300 บาท หนำซ้ำต้องดูแลย่าที่อายุมากแล้ว ทั้งนี้รายได้ก็จะนำมาใช้จ่ายให้กับลูก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของใช้ที่จำเป็น เมื่อก่อนนี้ทางโรงพยาบาลก็ให้ตนนำลูกชายไปโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ทุกเดือน แต่ระยะหลังไม่ได้ไปเนื่องจากไม่มีเงินในการเดินทาง

“แรกๆ ก็พยายามหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ระยะหลังก็หมดเงินและไม่มีงานทำ รับจ้างทุกอย่างบางวันก็ได้ 200 บางวัน 300 บาท ปีนี้เพิ่งไปของานทำที่โรงย้อมผ้าก็ได้วันละ 300 บาท ต่อมาจึงตัดสินใจขอให้เพื่อนที่มีความรู้เรื่องการเล่นเฟซบุ๊กลงข้อความในเฟซฯ ให้ เพราะคิดว่าจะมีผู้ใจบุญช่วยเหลือบริจาคมาบ้าง” นางสาวเกตุวดี กล่าว

มารดาของน้องเจมส์ กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญตนอยากนำลูกไปพบแพทย์ที่เชียงใหม่ อย่างน้อยสองสามเดือนเพราะตอนนี้ลูกชายยังเดินไม่ได้ แต่หากได้รับการรักษาต่อเนื่องแพทย์ก็บอกว่า สามารถเดินได้ปกติเหมือนคนทั่วไป.

เรื่องน่าสนใจ