โรคเครียดของคนยุคใหม่ วัยทำงานคือวัยที่เสี่ยงที่สุด ! เชื่อไหมคะ ? แต่เอาจริงๆ เเล้ว ความเครียดมันประหลาดดีนะ ว่าไหม ? เรามองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้ แต่รู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นแหละ (คอยทําให้เราปวดหัวอยู่เสมอ) ซึ่งไอ้คุณสมบัติที่ยากจะ อธิบายของเจ้านี่ อาจทําให้เราเลินเล่อจนลืมนึกถึงภัยร้าย ที่มันสามารถก่อให้เกิดกับชีวิตเราได้ ทั้งทางจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ

 

โรคเครียดของคนยุคใหม่

 

ในยุคสมัยนี้ คนที่อยู่ในวัยทำงานกำลังอยู่ในภาวะเครียดจัด แต่กระนั้น ก็มีเพียงจํานวนน้อยเท่านั้น ที่หาทางผ่อนคลาย อันที่จริงแล้ว เหมือนว่าหลายคนยังคงทําตัวให้เครียดต่อไป เพราะพวกเธอรู้สึกว่าการจัดเต็มกับภาระที่แบกอยู่นั้น มีค่าเท่ากับการได้รับเหรียญตราแห่งเกียรติยศเลยทีเดียว

 

โรคเครียดของคนยุคใหม่ วัยทำงานคือวัยที่เสี่ยงที่สุด !

แรงเย้ายวนของความเครียด
คนบางกลุ่มคิดว่า ถ้าไม่เครียดนั้น จะรู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ซึ่งคนเหล่านี้หลงใหลความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากภาวะเครียด โดยเวลาเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนจําพวกอะดรีนาลีน, ดีไฮโดรอิพิแอนโดรสเตอโรน  และคอร์ติซอลตัวร้ายออกมา เราอาจเสพติดสภาพตึงเครียดนี้ได้ และพอเครียดจัด เราอาจลงเอยด้วยการกินอาหารขยะที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ และอาการยินดีต้อนรับความเครียดเข้าสู่ชีวิตนั้น ยังเกิดจากความกดดันทางสังคมและวัฒนธรรมด้วย จริงอยู่ สังคมพัฒนามาถึงขั้นให้โอกาสและสิทธิหลายด้านแก่ผู้หญิง แต่ผู้หญิงหลายคน ก็อยากพิสูจน์ตัวเองชัดเจนว่า พวกเธอสามารถประสบความสําเร็จได้เทียบเท่าเพื่อนร่วมงานชาย

ซึ่งในปัจจุบัน ผู้หญิงต้องรับมือกับหลายบทบาทมากกว่าในยุคก่อน การต้องจัดการหลายสิ่งอย่าง ส่งผลให้สุดท้าย พวกเธอผจญหน้ากับภาวะเครียด และรู้สึกผิดที่รับผิดชอบบทบาทเหล่านั้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร พวกเธอจะเริ่มชินกับภาวะมีแรงกระตุ้น ที่เกิดจากสารอะดรีนาลีนหลั่ง และ เริ่มตีความว่า อาการกังวลเคร่งเครียด ช่วยให้พวกเธอจัดการงานได้บรรลุเป้าหมาย มากกว่าจะมองว่าภาวะวิตกเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้

 

โรคเครียดของคนยุคใหม่
ภาพจาก : today.com

 

เครียดเข้มข้นเกินไป ระวังสุขภาพแย่
บางครั้ง ความเครียดก็ทําให้เราเงอะงะจนหลงลืมอะไรหลายอย่าง ก่อนที่จะระลึกได้ในเวลาฉับพลัน “อ้อ! ฉันลืมเอกสารการเงินไว้ที่ออฟฟิศลูกค้า!” ซึ่งในภาวะเครียดนี้ ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะพุ่งสูง เรื่องที่ควรกังวลคือ ถ้าปล่อยไว้นานวันเข้า ภาวะเครียดอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งระบบร่างกาย หลังจากพุ่งขึ้นสูงแล้ว ระดับคอร์ติซอลควรลดลงต่ำสู่จุดเดิม ไม่ใช่อยู่ในจุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เวลามีเรื่องเครียดติดต่อกันยาวนาน แหล่งสะสมคอร์ติซอลในร่างกายจะลดต่ำมากเกินไป และร่างกายจะมีฮอร์โมนนี้ไม่เพียงพอที่จะใช้เพื่อคงภาวะปกติ 

นอกจากนี้ ถ้าคอร์ติซอลอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง สารอาหารบางอย่าง เช่น วิตามินบี จะลดลง ส่วนระดับคอเลสเตอรอล, ความดัน เลือด, และน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นมาก คอร์ติซอลที่สูงเกิน ยังกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งคอยทําลายเซลล์ประสาท มีผลต่อความทรงจําทั้งระยะสั้นและยาว รวมถึงสมองโปร่งเวลาคิดไตร่ตรองเรื่องใดๆ

••••••••••••••••••••••••

สุดท้ายแล้ว การอยากลิ้มรสความสําเร็จจนยอมเคร่งเครียด อาจไม่เกิดผลดีต่อร่างกายและจิตใจนัก แถมบางครั้งยังเกิดผลกระทบกับงานในระยะยาวด้วย เพราะอัตราคนที่พิการจนต้องออกจากงานนั้น หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือเครียดเกินไปนั่นเองค่ะ

เนื้อหาโดย Dodeden.com

 

เรื่องน่าสนใจ