ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ (12 มกราคม 2560) นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรมสบส. ) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายศรีสกุล แสงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 5 จ.ราชบุรี ตรวจเยี่ยมติดตามการกอบกู้ ฟื้นฟูโรงพยาบาลบางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังถูกน้ำท่วมอาคารบริการระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 และให้สัมภาษณ์ว่า การกอบกู้ดูแลความมั่นคงปลอดภัยของอาคารสถานพยาบาลและความปลอดภัยเครื่องมือแพทย์ทุกชิ้น
รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคต่างๆทั้งระบบน้ำ ไฟ ระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นภารกิจหลักของกรมสบส.เพื่อสนับสนุนการให้บริการผู้เจ็บป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในระยะเร่งด่วนนี้ จะต้องดำเนินการกู้ระบบไฟฟ้า ประปา เครื่องมือแพทย์ให้ใช้การได้โดยเร็วที่สุด
เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉินเร็วที่สุดภายในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2560 นี้ และจะเร่งตรวจสอบฟื้นฟูอาคาร จุดบริการต่างๆทั้งหมดในโรงพยาบาล คาดว่าภายในวันอังคารที่ 17 มกราคม 2560 โรงพยาบาลบางสะพานจะสามารถเปิดบริการอย่างสมบูรณ์แบบทุกจุด
นายแพทย์ประภาส กล่าวว่า จากการส่งทีมวิศวกรเข้าประเมินหลังระดับน้ำลดลง พบมีความเสียหายทั้งหมด 12 รายการ ได้แก่ 1.เครื่องเอ็กซเรย์ 2.ยูนิตทำฟัน 5 ยูนิต 3.ระบบควบคุมปริมาณรังสีเอ็กซเรย์ 1 ชุด
4.ตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าอาคาร 6 ชั้น 1 ชุด 5.ระบบประปาขึ้นถังสูง ระบบประปาโรงพยาบาล 6.ระบบไฟฟ้าทุกอาคารบริการ 7.ระบบไฟฟ้าบ้านพักเจ้าหน้าที่ทุกหลัง
8.เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากตั้งอยู่อาคารชั้นล่างทั้งหมด 9.ระบบอินเตอร์เน็ต 10.ระบบจ่ายกลาง เครื่องซักอบ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อเครื่องมือแพทย์ เครื่องใช้ผู้ป่วย 11.ระบบก๊าซทางการแพทย์ เช่น อ๊อกซิเจนและ 12. ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว
มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะต้องเร่งลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด โดยกรมสบส.ได้ระดมทีมวิศวกรระดับเชี่ยวชาญ 5 ทีมรวมกว่า 20 คน ทั้งจากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขตที่จังหวัดราชบุรี นนทบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก และได้รับความร่วมมือจากคณะวิศวกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยด้วย
“เครื่องมือแพทย์ต่างๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ฟ้าทุกชนิด หลังถูกน้ำท่วม จะต้องเร่งถอดล้างทำความสะอาดคราบดินโคลนที่คั่งค้างภายในเครื่องมือทุกชิ้นออกให้เร็วที่สุด เพื่อมิให้ขัดขวางการทำงานของวงจรไฟฟ้า จึงต้องเร่งทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ ซึ่งหากทำได้เร็วมากเท่าใดยิ่งจะเป็นผลดี จะสามารถกู้เครื่องมือให้กลับมาใช้งานอย่างมีคุณภาพปลอดภัยได้มากกว่าร้อยละ 80” นายแพทย์ประภาส กล่าว
นายแพทย์ประภาสกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในวันนี้ กรมสบส.ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนคือโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในอ.บางสะพาน โดยให้บริการตรวจรักษาผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วยฟรี พร้อมทั้งแจกข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มบรรจุขวดให้ด้วย ซึ่งกรมสบส.จะประสานคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆร่วมออกหน่วยแพทย์บริการผู้ประสบภัย เนื่องจากขณะนี้ยังมีความต้องการ 3 จังหวัดคือ นครศรีธรรมราช ชุมพรและสุราษฎร์ธานี เพื่อกระจายบริการดูแลอย่างดีที่สุดและทั่วถึงทุกแห่ง
