รู้จักมะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่คร่าชีวิตสาวไทยปีละกว่า 2,000 คน!! เพราะเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในสาวไทย จากรายงานของสํานักวิจัยมะเร็งนานาชาติ พบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ ปีละ 6,243 ราย เสียชีวิต 2,620 ราย หรือประมาณร้อยละ 42 ถ้าคิดเป็นวันแล้ว จะมีสาวไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก วันละ 7 ราย แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ มันเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ และสามารถตรวจคัดกรองหาความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก

รู้จักกับมะเร็งปากมดลูก

รู้จักมะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่คร่าชีวิตสาวไทยปีละกว่า 2,000 คน!!

สาเหตุสําคัญของมะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส human papillomavirus : HPV) ที่ปากมดลูก ปัจจัยเสี่ยงที่ทําให้ปากมดลูกมีโอกาสติดเชื้อเอชพีวี หรือเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้น ได้แก่ การมีคู่นอนหลายคน และการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่มีคู่นอนคนเดียว ก็มีโอกาสติดเชื้อเอชพีวีและเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เชื้อเอชพีวีเป็นเชื้อที่ติดต่อง่าย แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ และหายไปได้เอง มีส่วนน้อยเท่านั้นที่เชื้อยังคงอยู่ และก่อโรคอย่างช้าๆ จนกระทั่งกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ปัจจัยส่งเสริมให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ง่าย ถ้ามีการติดเชื้อเอชพีวี ได้แก่ การสูบบุหรี่ และการมีภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น

รู้จักมะเร็งปากมดลูก
ภาพจาก mountelizabeth.com

อาการของมะเร็งปากมดลูก
ขึ้นกับระยะของมะเร็ง ในระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปกติเลย และตรวจพบจากการตรวจคัดกรอง หรือการตรวจด้วยกล้องขยายรวมกับการตัดเนื้อออกตรวจทางพยาธิวิทยา อาการที่พบมากที่สุดของมะเร็งปากมดลูกคือ การมีเลือดออก ผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งพบประมาณร้อยละ 80-90 ของผู้ปวย ลักษณะของเลือดที่ออก อาจจะเป็นเลือดออกระหว่างรอบเดือน เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวปนเลือด หรือเลือดออกหลังวัยหมดประจําเดือนก็ได้ อาการของมะเร็งในระยะหลังได้แก่ ปวดหลังรุนแรง ขาบวม ถ่ายปัสสาวะ หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เป็นต้น

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก

  • การป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีที่ปากมดลูก
    โดยการใช้ถุงยางอนามัยคุมกําเนิด และการฉีดเอชพีวีวัคซีน เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน
รู้จักมะเร็งปากมดลูก
ภาพจาก checkupsmed.com
  • การตรวจคัดกรอง โดย
    การตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ที่เรียกว่า  แปบสเมียร์ (Pap test) อย่างสม่ำเสมอ
  • การตรวจหาเชื้อเอชพีวีที่ปากมดลูก (HPV DNA test)
    มีความไวสูงถึงร้อยละ 95-100

วัคซีนเอชพีวี ที่ใช้ฉีดป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีในปัจจุบัน ประกอบด้วยโปรตีนของเชื้อเอชพีวี 2 ชนิด ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก คือ ชนิด 16 และ 18 ซึ่งครอบคลุมมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณร้อยละ 70 วัคซีนนี้เรียกว่า “วัคซีนเอชพีวี 16/18” วัคซีนบางชนิด มีโปรตีนของเชื้อเอชพีวีอีก 2 ชนิดร่วมด้วย คือ ชนิด 6 และ 11 ซึ่งเป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่ ประมาณร้อยละ 90

……………………………………………………………………………..

การฉีดวัคซีน จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านเชื้อเอชพีวีในกระแสเลือด เมื่อเชื้อเอชพีวีเข้ามาที่ปากมดลูก ภูมิคุ้มกันเหล่านี้ จะออกมาทําลายเชื้อเอชพีวี ทําให้ปากมดลูกไม่ติดเชื้อ การฉีดวัคซีนจึงสามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อีกวิธีหนึ่ง

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

เรื่องน่าสนใจ