ที่มา: Springnews

ถึงแม้หลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีการเล่น “สงกรานต์” สาดน้ำเหมือนกันกับไทย แต่เว็บไซต์ของซีเอ็นเอ็นยกให้ประเทศไทยเป็นชาติที่เล่นสาดน้ำได้ยิ่งใหญ่สุดในโลก โดยพิมพ์บทความ “แนะวิธีเล่นสงกรานต์ในไทยให้ได้ทั้งความสนุกและปลอดภัย” 

165

 

ข้อ 1 : ใช้น้ำเย็นและสะอาดเท่านั้น โดยซีเอ็นเอ็น บอกว่า การสาดน้ำกันในช่วงสงกรานต์ ไม่ว่าจะใช้น้ำก๊อก หรือ น้ำใส่ถัง ก็ควรใช้น้ำเย็นและสะอาดเท่านั้น ห้ามใช้น้ำร้อน ซึ่งสามารถใส่น้ำแข็งลงไปในถังได้ แต่ห้ามเอาน้ำแข็งมาปากัน

ข้อ 2 : ใช้ปืนฉีดน้ำได้ แต่ห้ามใช้สายยางพ่นน้ำ หรือ ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง เพราะจะถูกเจ้าหน้าที่ริบและปรับหนักอีกด้วย ที่สำคัญ! อย่าฉีดน้ำใส่เบ้าตาของกันและกันเพราะอันตรายและอาจติดเชื้อได้

ข้อ 3 : ผู้หญิงต้องระมัดระวังตัว เพราะบางครั้งอาจมีคนเมาปะปนเข้ามาเล่นน้ำ แล้วใช้มือลวนลามผู้หญิง

ข้อ 4 : ใช้แป้งน้ำทาหน้าให้กันได้ เพราะเหมือนเป็นการอวยพรให้ชีวิตชื่นมื่นในช่วงสงกรานต์

ข้อ 5 : ต้องระวังแป้งน้ำ หรือ ดินสอพอง อาจไม่สะอาดหรือบางครั้งคนที่เอาแป้งมาโปะหน้าเรา มืออาจไม่สะอาด แล้วทำให้หน้าของเรามีสิวขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้น ควรมีขวดบรรจุน้ำสะอาดไปด้วย เพื่อล้างหน้าล้างตาไม่มีคราบแป้งหลงเหลือ แต่ถ้าไม่อยากเล่นแป้ง ซีเอ็นเอ็นแนะให้ไปที่ถนนข้าวสาร หรือ สีลม ในกรุงเทพ เพราะที่นั่น ให้เล่นแต่น้ำ ไม่มีเล่นแป้ง

ข้อ 6 : แต่งตัวให้เหมาะสมกับการเล่นน้ำ ห้ามใส่ชุดขาว ที่เห็นชั้นในใสได้อย่างชัดเจนเวลาโดนน้ำ ใส่ชุดว่ายน้ำไว้ข้างในแล้วใส่เสื้อยืดทับ น่าจะเหมาะกับการไปเล่นน้ำ

ข้อ 7 : อย่าใส่ยีนส์ไปเล่นน้ำ เพราะเมื่อโดนน้ำ จะหนักมากทำให้ผู้ใส่อึดอัด แต่ถ้าคิดจะใส่ชุดบิกินี่ไปเล่นน้ำสงกรานต์เลยก็ไม่เหมาะอีกเหมือนกัน ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงเล่นน้ำ และรองเท้าแตะเหมาะที่สุด

ข้อ 8 : ควรใส่แว่นตากันน้ำไปด้วย เพราะบางครั้งน้ำที่ใช่เล่นไม่สะอาด อาจทำให้ตาติดเชื้อได้

ข้อ 9 : ระวังทรัพย์สินมีค่าไม่ให้โดนน้ำ พวกมือถือและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ให้ใส่ซองกันน้ำ แล้วซ่อนไว้ในเสื้อยืด หรือ กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงที่มีกระดุมปิดอีกชั้นหนึ่ง

ข้อ 10 : ทาครีมกันแดดหรือใส่หมวกไปด้วย เพราะอากาศในเมืองไทยช่วงสงกรานต์จะร้อนเป็นประวัติการณ์ทุกปี แตะ 40 องศาเซลเซียส และให้ถือน้ำดื่มไปด้วย เพราะจะได้ดื่มน้ำทันทีที่อากาศร้อน

ข้อ 11 : พกผ้าขนหนูไปด้วย เพราะเมื่อเลิกเล่นสาดน้ำแล้ว จะได้นำผ้าขนหนูมาเช็ดตามเนื้อตัวให้แห้ง ก่อนจะเดินขึ้นรถไฟฟ้า หรือเข้าโรงแรมต่อไป

ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็นตบท้ายว่า สงกรานต์ยังถือเป็นเทศกาลที่มักจะเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนนในไทย อย่างเมื่อปี 2557 ก็มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 300 คน บาดเจ็บไปกว่า 3,000 คน ในช่วง 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ โดยเมาแล้วขับเป็นต้นเหตุถึง 36 เปอร์เซ็นต์ และอุบัติเหตุมักเกิดกับจักรยานยนต์มากถึง 79 เปอร์เซ็นต์

เรื่องน่าสนใจ