" .. สวัสดีคนที่หลงเข้ามาในกระทู้นี้นะคะ
" เรียกเจ้าของกระทู้ว่า กิ๊ฟ ก็ได้ค่ะ อายุ 22 ปี
บอกได้เลยว่า ประสบการณ์ในชีวิตที่ได้ออกมาดูโลกนั้น
ไม่มีสักครั้งที่ไม่โดนล้อว่า ดั้งแหมบ แบน มิหนำซ้ำ หาว่าเรากินข้าวเหนียวเยอะซะอีก
ฮืออออออออออออออออออออออ จากนั้นเราก็หลอกตัวเองตลอดมา คิดว่าเราพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว (?)
*ส่วนนี้คือน้ำค่ะ ถ้าอยากได้อรรถรสก็อ่านได้เลย ถ้าไม่อยากอ่านข้ามไปขั้นตอนที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ*
พอได้เริ่มทำงาน เริ่มโต .. เจอคนมากหน้าหลายตา
หลายๆคนต่างบอกกันว่า ถ้าไปเสริมดั้งอีกนิดนะ ก็เวิร์คเลย
เพราะเราพื้นฐานผิวคือ ขาวเหลือง
ไอ่เราก็คิดว่า เสริมจมูก นี่มันต้องแพงมากแน่ๆ ใครมันจะมีปัญญาหามา ยังไม่ได้หาเงินเองเลย
พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย .. เสียงเริ่มมากขึ้น มีแต่เพื่อนๆรอบข้างพูดกันว่าให้ไปเสริมจมูก ...
เฮ้ออออออออออออออออออออ .. เอาไงดีวะเนี่ย ???
จากที่ไม่ค่อยมีกิเลส มันเริ่มทวีคูณมากขึ้น .. มากขึ้น ...
แต่ก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้น จนกระทั่ง เราทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึง ..
เอาไงดีวะเนี่ย เอาเงินไปทำอะไรดี โทรศัพท์ก็ยังไม่อยากได้ใหม่ ยังใช้ได้อยู่
จนได้ไปคุยกับลูกสาวของน้า พี่เขาบอกว่าไปทำมาที่ชลบุรี ราคาประมาณ 2 หมื่นบาท
เอาละวะ กิเลสมาละ อยากทำค่าาาาา อยากทำ ทำยังไงดี ???
เปิด internet สิคะ คราวนี้ เข้าไปที่ website โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี
ซึ่งเงินที่เราทำงานหามาได้เนี่ย มันพอสามารถที่จะเสริมจมูกได้กับราคาที่น้อยที่สุด
โทร.ค่ะ .. โทร.หาโรงพยาบาล จองคิวเองเลยจ้า ไม่ถาม คุณพ่อ-แม่สักคำ กิเลสมาเต็มค่ะ
จากนั้นก็ค่อยเริ่มมาบอกคุณแม่ก่อน .. ปัญหาเกิด ! คุณแม่ไม่ยอมให้ทำค่ะ
นอยด์ไปสักพัก คุณแม่แนะนำว่า ขอให้ทำช่วงหลังจากฝึกงานได้มั้ย ? จะได้มีเวลาพักผ่อน คุณแม่จะได้ช่วยดูแล
โอ้โหยยยยยยยยยยยย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ .. แต่ว่า 6 เดือนมันนานจัง ... ชักจะรอไม่ไหว
แต่ทำไงได้คะ มันต้องรอ ...
จนกระทั่งช่วงเดือนเกิด มีนาคม ได้โทร.จองแล้วค่ะ จองเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม จำได้ดีเลยค่ะ
เพราะเราฝึกงานเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือนหลังจากปิดเทอม
ประมาณวันที่ 27 พฤษภาคม เพิ่งนึกได้ค่ะ ว่ามีพี่แนะนำว่าให้ ดื่มน้ำใบบัวบก
ไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างรึเปล่า
ทานค่ะ ทานแทนน้ำเปล่าไป สองวัน .. คุณแม่ก็หาให้ทานค่ะ ทานจนเอียน จนเบื่อน้ำใบบัวบกไปเลย
วันที่ 29 พฤษภาคม เป็นวันที่ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ
เริ่มหาข้อมูลว่าต้องปฏิบัติตัวยังไงบ้าง ใช้หมอนรองคอยังไง
แผ่นประคบเย็น (cool pad) ที่บ้านมีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคนที่ปวดหัวบ่อย (เรียนหนักค่ะ เรียนสถาปัตย์
)
เอาจริงๆ ก็จำข้อปฏิบัติได้ไม่มาก เพราะตื่นเต้นค่ะ เพราะว่าคุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว พาเราไปกันทั้งบ้านเลยค่ะ
รอบนี้คุณพ่อควักจ่ายให้เป็นของขวัญ
พอเดินทางไป คือรถติดมากกก อยากถึงโรงพยาบาลไวๆแล้ว (บ้านเราอยู่รังสิตค่ะ)
คุณพ่อดันมาผ่านถนนเส้นแจ้งวัฒนะ !!! ฮือออออออออออออ กลัวไปไม่ทัน ตื่นเต้นมากๆ
บอกได้เลยว่า ประสบการณ์ในชีวิตที่ได้ออกมาดูโลกนั้น
ไม่มีสักครั้งที่ไม่โดนล้อว่า ดั้งแหมบ แบน มิหนำซ้ำ หาว่าเรากินข้าวเหนียวเยอะซะอีก
ฮืออออออออออออออออออออออ จากนั้นเราก็หลอกตัวเองตลอดมา คิดว่าเราพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว (?)
*ส่วนนี้คือน้ำค่ะ ถ้าอยากได้อรรถรสก็อ่านได้เลย ถ้าไม่อยากอ่านข้ามไปขั้นตอนที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ*
พอได้เริ่มทำงาน เริ่มโต .. เจอคนมากหน้าหลายตา
หลายๆคนต่างบอกกันว่า ถ้าไปเสริมดั้งอีกนิดนะ ก็เวิร์คเลย
เพราะเราพื้นฐานผิวคือ ขาวเหลือง
ไอ่เราก็คิดว่า เสริมจมูก นี่มันต้องแพงมากแน่ๆ ใครมันจะมีปัญญาหามา ยังไม่ได้หาเงินเองเลย
พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย .. เสียงเริ่มมากขึ้น มีแต่เพื่อนๆรอบข้างพูดกันว่าให้ไปเสริมจมูก ...
เฮ้ออออออออออออออออออออ .. เอาไงดีวะเนี่ย ???
จากที่ไม่ค่อยมีกิเลส มันเริ่มทวีคูณมากขึ้น .. มากขึ้น ...
แต่ก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้น จนกระทั่ง เราทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึง ..
เอาไงดีวะเนี่ย เอาเงินไปทำอะไรดี โทรศัพท์ก็ยังไม่อยากได้ใหม่ ยังใช้ได้อยู่
จนได้ไปคุยกับลูกสาวของน้า พี่เขาบอกว่าไปทำมาที่ชลบุรี ราคาประมาณ 2 หมื่นบาท
เอาละวะ กิเลสมาละ อยากทำค่าาาาา อยากทำ ทำยังไงดี ???
เปิด internet สิคะ คราวนี้ เข้าไปที่ website โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี
ซึ่งเงินที่เราทำงานหามาได้เนี่ย มันพอสามารถที่จะเสริมจมูกได้กับราคาที่น้อยที่สุด
โทร.ค่ะ .. โทร.หาโรงพยาบาล จองคิวเองเลยจ้า ไม่ถาม คุณพ่อ-แม่สักคำ กิเลสมาเต็มค่ะ
จากนั้นก็ค่อยเริ่มมาบอกคุณแม่ก่อน .. ปัญหาเกิด ! คุณแม่ไม่ยอมให้ทำค่ะ
นอยด์ไปสักพัก คุณแม่แนะนำว่า ขอให้ทำช่วงหลังจากฝึกงานได้มั้ย ? จะได้มีเวลาพักผ่อน คุณแม่จะได้ช่วยดูแล
โอ้โหยยยยยยยยยยยย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ .. แต่ว่า 6 เดือนมันนานจัง ... ชักจะรอไม่ไหว
แต่ทำไงได้คะ มันต้องรอ ...
จนกระทั่งช่วงเดือนเกิด มีนาคม ได้โทร.จองแล้วค่ะ จองเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม จำได้ดีเลยค่ะ
เพราะเราฝึกงานเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือนหลังจากปิดเทอม
ประมาณวันที่ 27 พฤษภาคม เพิ่งนึกได้ค่ะ ว่ามีพี่แนะนำว่าให้ ดื่มน้ำใบบัวบก
ทานค่ะ ทานแทนน้ำเปล่าไป สองวัน .. คุณแม่ก็หาให้ทานค่ะ ทานจนเอียน จนเบื่อน้ำใบบัวบกไปเลย
วันที่ 29 พฤษภาคม เป็นวันที่ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ
เริ่มหาข้อมูลว่าต้องปฏิบัติตัวยังไงบ้าง ใช้หมอนรองคอยังไง
แผ่นประคบเย็น (cool pad) ที่บ้านมีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคนที่ปวดหัวบ่อย (เรียนหนักค่ะ เรียนสถาปัตย์
เอาจริงๆ ก็จำข้อปฏิบัติได้ไม่มาก เพราะตื่นเต้นค่ะ เพราะว่าคุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว พาเราไปกันทั้งบ้านเลยค่ะ
รอบนี้คุณพ่อควักจ่ายให้เป็นของขวัญ
พอเดินทางไป คือรถติดมากกก อยากถึงโรงพยาบาลไวๆแล้ว (บ้านเราอยู่รังสิตค่ะ)
คุณพ่อดันมาผ่านถนนเส้นแจ้งวัฒนะ !!! ฮือออออออออออออ กลัวไปไม่ทัน ตื่นเต้นมากๆ
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ