SoEve
สมาชิกใหม่
- สมัครเมื่อ
- 10 กุมภาพันธ์ 2015
- โพสต์
- 2
สวัสดีค่ะ วันนี้อีฟแอบว่าง!!! มาแชร์ประสบการณ์ ร้อยไหมให้เพื่อนๆที่กำลังสนใจการร้อยไหมกันค่ะ อีฟจะบอกว่า อีฟเคยร้อยไหม stem cell มาก่อน มันก็ยกกระชับ หน้ายกในระดับนึงเลย แต่ว่าทำมาหลายปีละค่ะ เลยอยากจะร้อยไหมเพิ่ม หน้าเริ่มหย่อนๆ>_<และอยากหน้าหน้าเรียวกว่าเดิมแฮ่ๆๆๆ เลยเข้าไปปรึกษาคุณหมอลูกหนู เพราะใกล้บ้าน.....
คุณหมอแนะนำไหมสองชนิดให้อีฟเลือกค่ะ เป็นไหมล็อคก้างปลา และไหมจระเข้ อีฟก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยมีความรู้มากนักค่ะ เลยให้คุณหมออธิบายไหมทั้งสองชนิดให้ฟังว่าเป็นแบบไหน ลักษณะยังไง
ไหมล็อคก้างปลาก็จะเป็นเงี่ยง มีเขี้ยวคล้ายๆก้างปลา มันจะเกาะผิวหน้าได้ดีเวลาร้อยค่ะแต่ตัวไหมก้างปลาก่อนการร้อยจะต้องฉีดยาชาค่ะ ซึ่ง อีฟกลัวการฉีดยาชาค่ะ
ไหมอีกตัวที่คุณหมอแนะนำ คือไหมจระเข้ คุณหมอบอกว่าตัวไหมจระเข้ในปัจจุบันจะเป็นไหมที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ คุณภาพก็เทียบเท่ากับไหมก้างปลารวมกับไหมสปริงไว้ในเส้นเดียวกันเลยแหละค่ะ แต่ประเด็นหลักๆคือ "ไม่ต้องฉีดยาชา" แค่แปะยาชา ฮ่าๆๆๆ อีฟแอบกลัวเจ็บนิดนึงอ่ะนะ
เดี๋ยวอีฟจะอัพรูปก่อนร้อยไหมให้ดูนะคะ ขออนุญาติคุณหมอถ่ายรูปคู่ ( อิอิเขิล)
ทายาชากันเลยดีกว่า ทายา 15-30นาที รอให้ยาชาออกฤทธิ์ค่ะ .....พี่ทรีทเม้นต์ก็จะล้างยาชา และต่อด้วยการทายาเหลือง(เบตาดีนล้างแผล) คุณหมอบอกว่าทาเพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวค่ะO_o
เริ่มเข้าสู่กระบวนการการร้อยไหมแล้วววววววค่ะอีฟก็ชวนคุณหมอคุย อิอิ ไม่รู้คุณหมอจะรำคาญหรือป่าว แต่คุณหมอก็แนะนำ และอธิบายและร้อยไหมไปพร้อมกับอธิบายให้อีฟฟังอย่างเข้าใจง่ายๆชัดเจน (จะเอารูปตอนคุณหมอกำลังร้อยไหมให้ดูนะคะ)
คุณหมอยังแนะนำระหว่างการร้อยไหม ว่าไหมstem cell และไหมจระเข้ เปรียบเทียบให้อีฟดูด้วยลักษณะเส้นไหมที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ไหมจระเข้จะเป็นเกลียวๆ และเส้นยาวกว่า จึงทำให้หลังจากร้อยเสร็จทันทีหน้าอีฟก็ดูยกขึ้นเลยค่ะ รู้สึกได้ทันที ส่วนไหม stem cell ก็จะสั้นกว่าไหม จระเข้ และเป็นเส้นตรง
ช่วงระหว่างร้อยไหมคุณหมอก็ร้อยไหมสลับกับการปะคบเย็นด้วยลูกโป่ง จะช่วยลดอาการเขียวช้ำค่ะ และจะทำให้ตอนร้อยไม่เจ็บด้วยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่อีฟเคยร้อยไหม stem cellมาจากที่อื่นไม่มีการปะคบเย็นให้อีฟเลยปลื้มมมมม!!
คุณหมอกระชิบมาว่า.....ถ้าอยากจะเก็บกรอบหน้า ก็สามารถร้อยไหม stem cellเพิ่มได้ค่ะ จะยิ่งดีทำให้เห็นกรอบหน้าได้ชัดเจน กระชับมากยิ่งขึ้น อีฟก็เลยจัดไป ร้อยไหม stem cellเพิ่ม เพื่อเก็บกรอบหน้าตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ
หลังร้อยเสร็จ พอผิวบริเวณแก้มยกขึ้น เหนียงอีฟจึงชัดเจนขึ้นเลย 5555+ บ่นๆๆๆให้คุณหมอฟัง คุณหมอแนะนำว่า เมื่อผิวบริเวณหน้ามันยก กระชับขึ้น มันจึงทำให้เห็นเหนียงชัดเจนขึ้น (แต่อีฟก็แอบมีเหนียงอยู่ก่อนแล้ว)เดี๋ยวจะโชว์รูปอีกแล้วค่ะ หลังจากร้อยไหมเสร็จเรียบร้อยมีแค่ร้อยเข็มนิดเดียวเองค่ะ (ดีจังเลยค่ะ!!!)
หน้าสดหลังร้อยไหมจระเข้ผ่านไป 1 วันค่ะ ก็ไม่มีรอยเขียวช้ำนะคะ แต่ยังมีรอยเข็มจางๆ บริเวณที่ใส่ไหมจระเข้เท่านั้นเองค่ะ อีฟคิดว่าหน้าอีฟจะเขียวด้วยซ้ำ เพราะคุณหมอบอกว่าผิวหน้าอีฟบ้างมาก
อีฟว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ ไว้ถ้าครบ 1-2 อาทิตย์ ตามที่คุณหมอแนะนำอีฟจะมาอัพรูปให้ดูอีกนะคะ ว่าหน้าอีฟจะเป็นยังไง ฝันดีราตรีสวัสดิ์.....
คุณหมอแนะนำไหมสองชนิดให้อีฟเลือกค่ะ เป็นไหมล็อคก้างปลา และไหมจระเข้ อีฟก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยมีความรู้มากนักค่ะ เลยให้คุณหมออธิบายไหมทั้งสองชนิดให้ฟังว่าเป็นแบบไหน ลักษณะยังไง
ไหมล็อคก้างปลาก็จะเป็นเงี่ยง มีเขี้ยวคล้ายๆก้างปลา มันจะเกาะผิวหน้าได้ดีเวลาร้อยค่ะแต่ตัวไหมก้างปลาก่อนการร้อยจะต้องฉีดยาชาค่ะ ซึ่ง อีฟกลัวการฉีดยาชาค่ะ
ไหมอีกตัวที่คุณหมอแนะนำ คือไหมจระเข้ คุณหมอบอกว่าตัวไหมจระเข้ในปัจจุบันจะเป็นไหมที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ คุณภาพก็เทียบเท่ากับไหมก้างปลารวมกับไหมสปริงไว้ในเส้นเดียวกันเลยแหละค่ะ แต่ประเด็นหลักๆคือ "ไม่ต้องฉีดยาชา" แค่แปะยาชา ฮ่าๆๆๆ อีฟแอบกลัวเจ็บนิดนึงอ่ะนะ
เดี๋ยวอีฟจะอัพรูปก่อนร้อยไหมให้ดูนะคะ ขออนุญาติคุณหมอถ่ายรูปคู่ ( อิอิเขิล)
ทายาชากันเลยดีกว่า ทายา 15-30นาที รอให้ยาชาออกฤทธิ์ค่ะ .....พี่ทรีทเม้นต์ก็จะล้างยาชา และต่อด้วยการทายาเหลือง(เบตาดีนล้างแผล) คุณหมอบอกว่าทาเพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวค่ะO_o
เริ่มเข้าสู่กระบวนการการร้อยไหมแล้วววววววค่ะอีฟก็ชวนคุณหมอคุย อิอิ ไม่รู้คุณหมอจะรำคาญหรือป่าว แต่คุณหมอก็แนะนำ และอธิบายและร้อยไหมไปพร้อมกับอธิบายให้อีฟฟังอย่างเข้าใจง่ายๆชัดเจน (จะเอารูปตอนคุณหมอกำลังร้อยไหมให้ดูนะคะ)
คุณหมอยังแนะนำระหว่างการร้อยไหม ว่าไหมstem cell และไหมจระเข้ เปรียบเทียบให้อีฟดูด้วยลักษณะเส้นไหมที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ไหมจระเข้จะเป็นเกลียวๆ และเส้นยาวกว่า จึงทำให้หลังจากร้อยเสร็จทันทีหน้าอีฟก็ดูยกขึ้นเลยค่ะ รู้สึกได้ทันที ส่วนไหม stem cell ก็จะสั้นกว่าไหม จระเข้ และเป็นเส้นตรง
ช่วงระหว่างร้อยไหมคุณหมอก็ร้อยไหมสลับกับการปะคบเย็นด้วยลูกโป่ง จะช่วยลดอาการเขียวช้ำค่ะ และจะทำให้ตอนร้อยไม่เจ็บด้วยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่อีฟเคยร้อยไหม stem cellมาจากที่อื่นไม่มีการปะคบเย็นให้อีฟเลยปลื้มมมมม!!
คุณหมอกระชิบมาว่า.....ถ้าอยากจะเก็บกรอบหน้า ก็สามารถร้อยไหม stem cellเพิ่มได้ค่ะ จะยิ่งดีทำให้เห็นกรอบหน้าได้ชัดเจน กระชับมากยิ่งขึ้น อีฟก็เลยจัดไป ร้อยไหม stem cellเพิ่ม เพื่อเก็บกรอบหน้าตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ
หลังร้อยเสร็จ พอผิวบริเวณแก้มยกขึ้น เหนียงอีฟจึงชัดเจนขึ้นเลย 5555+ บ่นๆๆๆให้คุณหมอฟัง คุณหมอแนะนำว่า เมื่อผิวบริเวณหน้ามันยก กระชับขึ้น มันจึงทำให้เห็นเหนียงชัดเจนขึ้น (แต่อีฟก็แอบมีเหนียงอยู่ก่อนแล้ว)เดี๋ยวจะโชว์รูปอีกแล้วค่ะ หลังจากร้อยไหมเสร็จเรียบร้อยมีแค่ร้อยเข็มนิดเดียวเองค่ะ (ดีจังเลยค่ะ!!!)
หน้าสดหลังร้อยไหมจระเข้ผ่านไป 1 วันค่ะ ก็ไม่มีรอยเขียวช้ำนะคะ แต่ยังมีรอยเข็มจางๆ บริเวณที่ใส่ไหมจระเข้เท่านั้นเองค่ะ อีฟคิดว่าหน้าอีฟจะเขียวด้วยซ้ำ เพราะคุณหมอบอกว่าผิวหน้าอีฟบ้างมาก
อีฟว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ ไว้ถ้าครบ 1-2 อาทิตย์ ตามที่คุณหมอแนะนำอีฟจะมาอัพรูปให้ดูอีกนะคะ ว่าหน้าอีฟจะเป็นยังไง ฝันดีราตรีสวัสดิ์.....
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ