Age Of Piyaporn [รีวิว ตา+จมูก+ลดน้ำหนัก]

[blue of winter]

Age Of Piyaporn
​

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกๆท่าน นี่คือการรีวิวการเปลี่ยนแปลงฉบับแรกของดิฉัน ซึ่งดิฉันนั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีความต้องการที่จะดูดี ดูสวยขึ้นบ้าง ดูดีขึ้นบ้าง เท่าที่ดิฉันจะทำได้ค่ะ

จากนี้ดิฉันขอเรียกแทนตัวเองว่า ปุ๊ นะคะ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของดิฉันเอง

ก่อนอื่นปุ๊ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าทำไมต้องเป็น Age Of Piyaporn …. ใช่ค่ะ ปุ๊ชื่อจริงว่า ปิยะพร ปุ๊จึงขอใช้ชื่อการรีวิวการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ตามหนังเรื่องหนึ่งที่ปุ๊คิดว่า ปุ๊ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ แต่ชีวิตปุ๊ไม่ได้สวยงาม เริ่ดหรูขนาดในหนังนะคะ แต่ปุ๊ชอบนางเอกค่ะ นางเอกที่เกิดเหตุการณ์หนึ่งกับชีวิตขึ้น ทำให้อายุขัยและสภาพร่างกายนั้นคงความสวยงามขนาดนั้นไว้ได้ โดยไม่ว่าจะผ่านมากี่สมัย นางเอกก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยงามอยู่เสมอ

กลับมาสู่ความจริงกันค่ะ ปุ๊จะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะ มันเป็นแค่หนัง ชีวิตจริงปุ๊ก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ในประเภทที่สวย หรือน่ารักจนทำให้ใครๆเหลียวมอง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมองเลยนะคะ มันมีบ้าง แต่นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที (นานจนบางทีปุ๊ก็คิดนะ ว่าเขาสนอะไรในตัวเรา 555) แต่ปุ๊ก็ยังมีดีนะคะ ปุ๊จริงจัง จริงใจกับเพื่อนๆทุกคนที่ดีกับปุ๊ค่ะ และวันเวลาที่ผ่านพ้นไปเรื่อยๆก็ทำให้ปุ๊ได้พบเจอกับผู้ชายคนนึงค่ะ ผู้ชายคนนี้แหละค่ะที่เป็นแรงผลักดันให้ปุ๊ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองแล้ว จากที่ปุ๊เคยแค่คิดๆ แต่ไม่ได้ลงมือทำจริงจังอะไรเท่าไหร่
........
แต่ก่อนจะคิดกันไปว่าปุ๊แอบชอบผู้ชายคนนั้นแน่ ปุ๊เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เขามาสนใจในตัวปุ๊ .... คุณคิดผิดค่ะ .... อิอิ

​

ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นน้องปุ๊ค่ะ เราได้เจอกันเพราะเราได้เจอกันตอนเรียนปริญญาโท เราเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ สนิทกันมากมากเสียจนเราสามารถปรึกษาอะไรกันได้แทบจะทุกเรื่อง และเดิมทีผู้ชายคนนี้มาพร้อมกับผู้ชายอีก 1คน และผู้หญิงอีก 2 คนค่ะ ครั้งแรกที่ปุ๊พวกพวกเขาปุ๊ว่าเขาต้องเป็นคู่แฟนที่จับมือมาเรียนด้วยกันชัวร์ ซึ่งมันก็ดูน่ารักดีนะค่ะ แต่แล้วทุกอย่างมันก็ผิดค่ะ 4 คนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนอกจากเพื่อนกัน และด้วยวันเวลาที่ผ่านพ้นไป เหตุการณ์หลายๆอย่างได้ผ่านเข้ามา จากกลุ่ม ชาย 2 หญิง 2 ก็เหลือเพียงแค่ ชาย 1 หญิง 2 ตรงนี้ปุ๊ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ ด้วยความที่ปุ๊นั่งเรียนอยู่โต๊ะหลังพวกเขา ทำให้ปุ๊เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น และสนิทมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
สำหรับผู้ที่คิดว่าปุ๊จะชอบเขา ............ บอกไว้เลยตรงนี้เลยค่ะ ปุ๊เสียใจมาก ..........หลอกกกกกกก!!!!! ผิดค่ะเพราะจริงๆแล้วเขาเข้ามาในชีวิตปุ๊ในฐานะน้องชายเท่านั้นค่ะ เขานี่แหละค่ะคือจุดเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ชีวิตเขาปุ๊เริ่มเปลี่ยนไปค่ะ เช่น เรื่องการขับรถ เทคโนโลยี รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่จะเล่าในรีวิวนี้ด้วยค่ะ และในบางทีปุ๊ก็รู้สึกเหมือนได้ลูกสาวเพิ่มมาทั้งๆที่ยังไม่มีผัว หรือจะให้สุภาพ ก็สามีนั่นแหละค่ะ 5555

​

นอกเรื่องมาเยอะแล้ว ปุ๊ขออนุญาตกลับมาที่รีวิวการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้อีกทีนะคะ เริ่มต้นกันเลยแล้วกันค่ะ ปุ๊อยากให้ทุกคนจินตนาการภาพของปุ๊นะคะ ปุ๊เป็นผู้หญิงรูปร่างท้วม จนเกือบแตะค่ะว่าอ้วน ไม่สูง ผมยืด แตกปลาย เสีย และดีดขั้นรุนแรง ผิวพรรณพอไปวัดไปวา มาต่อกันที่หน้าตานะคะ ปุ๊ไม่ใช่คนน่ารัก หรือสวยอะไร เป็นผู้หญิงหน้ากลมๆ ผิวหมองคล้ำ เป็นสิวผด สิวอักเสบอยู่บ่อยๆ หางตาตก จมูกก็พอมี คางนิดหน่อยค่ะ ....... (เอ๊ะ!!! นี่มันตัวฉันรึเปล่านะ ทำไมหาดียากจัง 5555)

------------------------------------------------------------------​

Step ที่ 1 ของการเปลี่ยนแปลงผิวพรรณ (ผิวหน้า และผิวกาย)

ผิวกาย - ปุ๊ขอเริ่มจากผิวกายก่อนแล้วกันนะคะ ด้วยเดิมทีแล้วปุ๊ไม่ได้เป็นคนผิวดี หรือผิวสวยแต่อย่างใด แต่ปุ๊เป็นคนที่ไม่ชอบให้ผิวตัวเองแห้งอยู่แล้ว จึงเป็นคนที่ติดการทาโลชั่นตลอดเวลา ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการทดลองยี่ห้อนั่นนี่มาเรื่อย จนมาตกลงปลงใจในความชุ่มชื่นของ Jergen ค่ะ เพราะส่วนตัวแล้ว ความขาวใสอะไรนั่นปุ๊ไม่ได้ต้องการเท่าไหร่ค่ะ ปุ๊ขอแค่เรามีผิวที่ชุ่มชื่นดูสุขภาพดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

​

ผิวหน้า – ตรงนี้ขอบอกเลยค่ะ ปุ๊คิดมาเสมอค่ะว่าแค่ล้างน้ำเปล่า กับผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งก่อนหน้าที่ปุ๊จะได้เจอผู้ชายคนนั้น หรือที่เป็นลูกสาวของปุ๊ในบางเวลานั้น ปุ๊ไม่เคยใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าเท่าไหร่ ปุ๊ทำได้แค่เพียงซื้อตามคำชวนเชื่อของโฆษณาเท่านั้นค่ะ หรือเพื่อนบอกว่าตัวไหนดีก็ฟังๆไว้ และถ้ามีจังหวะที่ของที่ใช้อยู่ใกล้หมด ก็ได้ลองซื้อมาใช้ตามคำบอกเล่าค่ะ จากการใช้ไปแบบไม่คิดอะไรนั้นก็ทำให้ผิวหน้าของปุ๊ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ไม่ใส สิวผดไม่หายขาด สิวอักเสบก็มาทักทายกันอยู่เรื่อยๆ จนลูกสาวของปุ๊เกิดการสงสัยขึ้นมาค่ะ ว่าทำไมหน้าปุ๊ไม่ห่างสิวสักที นางจึงเริ่มสืบค่ะ ใช่ค่ะสืบทุกอย่างเลย ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้เครื่องสำอาง การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าต่างๆ สืบไปยันวันมามากนู่นเลยค่ะ!!! (สืบลึกมากจนแอบคิดว่านางเป็นหมอหรอ) ไม่ต้องตกใจค่ะ ปุ๊ถามนางนะว่าทำไมต้องถามขนาดนี้ นางก็ให้เหตุผลมาค่ะ ว่าทุกอย่างมันสัมพันธ์กันหมด ซึ่งมาก็จริงค่ะ ทุกอย่างที่นางสืบมันส่งผลกับผิวปุ๊จริงๆค่ะ

เพราะ เมื่อก่อนเลยปุ๊ติดกาแฟค่ะ เช้า สาย บ่าย เย็น (แต่เย็นไม่ค่อยบ่อยมาก) ปุ๊ไม่ค่อยได้ดื่มน้ำเปล่าเท่าไหร่ นางก็เริ่มบอกให้ปุ๊ลดการดื่มกาแฟลง และให้เพิ่มการจิบน้ำเปล่าแทน เพราะการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะใน 1 วันนั้นส่งผลดีกับสุขภาพมากๆ อันนั้นปุ๊คิดว่าหลายคนคงรู้กัน แต่ไม่ค่อยได้ปฏิบัติกันเท่าไหร่ เพราะเกรงว่าจะปวดฉี่ระหว่างวันมากขึ้น ซึ่งมันจริงค่ะ มันปวดฉี่บ่อยขึ้นแต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับการทำงานนัก เพียงแค่เราใช้การจิบน้ำแทนการยกกระดกทีละแก้วใหญ่ๆ ...... พอปุ๊ได้ลองทำตามที่นางบอก สิ่งหนึ่งที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงคือ ผิว ผิวดูใสขึ้น ดูอิ่มน้ำขึ้น ระบบการไหลเวียนของเหลวในร่างกายเริ่มดีขึ้น แต่มันยังไม่ดีที่สุดนะคะ (ตรงนี้ปุ๊ขอยกไปไว้ในส่วนของรูปร่างต่อไปนะคะ)

พอปุ๊เริ่มปรับเปลี่ยนการดื่มน้ำแล้วมันก็ดีขึ้นจากข้างในค่ะ แต่ผิวภายนอกเราก็ต้องสนใจด้วย (ตรงนี้ลูกสาวได้กล่าวไว้) ลูกสาวของปุ๊จึงได้พาปุ๊ไปพบเจอกับผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมผิวปุ๊ไปเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยลูกสาวของปุ๊เนี่ยเป็นคนเริ่มใช้ก่อน (ฟังดูเหมือนขายตรง แต่ไม่ใช่นะคะ อิอิ) โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่าก็คือ No.7 สูตร Beautiful Skin และ Hada Labo ค่ะ จากการที่ลูกสาวผ่านการใช้งานมาประมาณครึ่งหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ นางบอกปุ๊เลยว่า “มันเริ่ดมากเจ้” (ลูกสาวมักเรียกปุ๊ว่า “เจ้” ค่ะ) สูตรนี้มันจะเป็นสูตรที่ทำให้ผิวเราสะอาด ผิวหน้าไม่มันเงาเท่าเมื่อก่อน หน้าดูใสขึ้นแบบผิวดูสุขภาพดี ไม่ใช่หน้าขาววอกแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆนะคะ ซึ่งตรงนี้บอกเลยค่ะ จากการที่ปุ๊ได้ใช้จริงๆแล้ว ปุ๊พอใจกับผลลัพธ์ค่ะ ผิวค่อยๆดีขึ้นตามลำดับค่ะ สิวเริ่มลดลงเรื่อยๆค่ะ ปุ๊พอใจค่ะ ^^ แต่ต้องสูตรนี้เท่านั้นนะคะ เพราะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ปุ๊เห็นสูตรไวท์เทนนิ่งลดราคาจึงได้ลองซื้อมาใช้ ........ ผลคือสิวมาให้ทันทีเลยค่ะ ปุ๊เลยยกให้ลูกสาวใช้แทน เพราะนางหน้าหนา หน้าทน (ไม่ได้ด่าเธอนะคะ ลูกสาววว ^^) กับทุกผลิตภัณฑ์ พอนางเอาไปใช้กลับไม่เป็นอะไรเลย (ตรงนี้ก็แอบอิจฉานางที่ผิวไม่แพ้ง่ายนะ)

ปุ๊คิดว่าการเลือกผลิตภัณฑ์นั้นมันก็เหมือนกับการทดลองค่ะ เพราะ จากคำพูดของคนนั้นคนนี้ หรือแม้แต่จากผู้เชี่ยวชาญก็ตามแต่ หากเขายืนยันว่าดี ไม่แพ้ นั่นนู่นนี่ แต่ถ้าเราใช้แล้วไม่เกิดผลทางบวก เสมอตัว หรือเกิดผลลบกับเรา นั่นแปลว่าเราไม่ใช่คู่กันค่ะ เราต้องอดทนและค้นหาสิ่งที่เราคู่ควรต่อไปค่ะ ปุ๊โชคดีที่เจอผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับปุ๊ค่ะ และปุ๊คิดว่าปุ๊คงจะอยู่กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไปอีกนานค่ะ

------------------------------------------------------------------​

 

[blue of winter]

Step ที่ 2 – รูปร่าง

ตรงนี้ปุ๊อยากให้ทุกคนลองนึกภาพของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่ได้สูงอะไรมาก เป็นคนมีหน้าอกหน้าใจจนหลายคนแอบอิจฉา(อย่าพึ่งอิจฉาไปค่ะ) ปุ๊คิดมาเสมอค่ะว่าปุ๊โอเคกับสภาพร่างนี้แล้ว ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย(ตรงนี้ปุ๊คิดเองค่ะ จนอีลูกสาวและน้องสาวอีก 2 คนบอกว่า “เธอคิดไปเองรึปล่าว” 5555) และก็นั่นแหละค่ะ มันจึงเป็นที่มันของการเริ่มต้นในการปรับเปลี่ยนรูปร่างตัวเอง แต่ปุ๊ก็บอกตรงนี้ก่อนนะคะ ว่าปุ๊ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนถึงขนาดที่ผอมจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ปุ๊เน้นไปที่สุขภาพภายในค่ะ


ถ้านึกไม่ออกก็ดูภาพนี้เลยค่ะ

ปุ๊เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีปัญหากับระบบเลือดนิดหน่อยค่ะ ทำให้การมาของวันนั้นของเดือนปุ๊ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เพราะ ปุ๊มีปัญหาไขมันที่มีมากเกินไปมันทำให้มดลูกทำงานผิดปกติ นั่นก็คือวันนั้นของเดือนมาไม่เคยตรงเลยค่ะ เดือนนึง มา 2 เดือนหาย เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบมากๆกับระบบต่างๆในร่างกายนะคะ แล้วผลของมันก็มาออกชัดสุดที่หน้าค่ะ ทั้งหมอง ทั้งสิว สารพัดค่ะ แต่ด้วยอีลูกสาวและน้องสาวทั้ง 2 อีกแหละค่ะ พวกนางคือตัวกระตุ้นชั้นเริ่ดค่ะ เอาจริงๆต้องบอกว่า นางพูดกับปุ๊ทุกอย่างในเรื่องนี้ค่ะ ทั้งที่นางเองก็ไม่มีมดลูกนะ นางพูดตั้งแต่ ดี ยัน ด่า(โดยมากจะเป็นอีลูกสาว) ค่ะ .....5555 (บางทีปุ๊ก็คิดนะ ว่านี่กรูยังเป็นพี่มรึงอยู่รึเปล่า) แต่ปุ๊ก็เข้าใจค่ะ เพราะทั้งหมดนั้นมันเพื่อตัวปุ๊เองทั้งนั้น


การเริ่มต้นของปุ๊นั้นก็คล้ายๆใครหลายคนแหละค่ะ ก่อนอื่นเลยเราต้องมีใจที่เข้มแข็งค่ะ ใจเท่านั้นที่จะทำให้เราชนะทุกสิ่ง ทั้งการออกกำลังกาย ทั้งการกิน ทั้งเป้าหมายที่เราวางไว้ อย่างที่บอกค่ะ ปุ๊ทำเพื่อสุขภาพล้วนๆ ส่วนที่เหลือมันคือผลพลอยได้จริง มาถึงตรงนี้ปุ๊จะเล่าให้ฟังนะคะว่าในระหว่างที่ปุ๊ต้องทำทุกอย่างเพื่อสุขภาพของตัวเองนั้น ปุ๊ต้องทำอะไรบ้าง

1. ต้องควบคุมการกิน - เราต้องหลีกเลี่ยงแป้ง หลีกเลี่ยงของกินจุกจิกทุกชนิด ดื่มน้ำให้ได้วันละอย่างต่ำ 1.5 ลิตร


2. ต้องออกกำลังกาย – ต้องทำยังไงก็ได้ค่ะให้เหงื่อออก ปุ๊เองใช้วิธีการวิ่ง การเดินค่ะ วันละ 30 นาที หรืออย่างช่วงที่ T25 ฮิตๆปุ๊ก็ไม่พลาดที่จะเอาบ้างค่ะ หรือจะเต้นแร้งเต้นกาไปเรื่อย ให้เหงื่อออก ในความคิดปุ๊นั้นถือว่าเป็นการออกกำลังกายเหมือนกันค่ะ


3. ต้องควบคุมจิตใจ(สำคัญสุด) – เราต้องดึงสติค่ะ บังคับไม่ให้ตัวเองกินจุกจิก ดื่นน้ำให้ได้ปริมาณ และออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ที่ได้นั้นทำให้วันนั้นของเดือนปุ๊มาอย่างที่มันควรเป็นค่ะ และพอมันมาตามที่มันควรแล้วมันก็ส่งผลให้ผิวปุ๊ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับด้วยค่ะ ผิวใสขึ้น สิวเริ่มลดลง และผลพลอยได้ที่ดีอีกอย่างคือหุ่นที่ดีขึ้นค่ะ สามารถหยิบเสื้อผ้าที่ไม่สามารถใส่ได้ก่อนหน้านี้กลับมาใส่ได้อย่างสบายๆ ถึงมันจะไม่ได้ผอมจนหุ่นดีอย่างคนอื่นๆเขา แต่มันก็สามารถทำให้หลายคนทักเราได้ว่า เราดูดีขึ้นนะ ผอมลงนะ แค่นี้ปุ๊ก็สบายใจแล้วค่ะ ^^


------------------------------------------------------------------

 

[blue of winter]

Step ที่ 3 – ศัลยกรรมตา


บอกตามตรงค่ะ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ปุ๊ตื่นเต้น ประหม่า กลัว หวั่นไหว นอยส์ มันมาทุกอารมณ์ค่ะ (เชื่อว่าทุกคนที่คิดจะทำศัลยกรรมก็เป็นเหมือนกัน) การทำศัลยกรรมของปุ๊นั้นเริ่มต้นจากการที่อีลูกสาว(อีกแล้ว) และน้องสองทั้ง 2 ของปุ๊นั้นชอบป้วนเปี้ยนกันอยู่ในวงการนี่อยู่เรื่อยๆ ประเดี๊ยวก็เอารีวิวนั้นมาให้ดู รีวิวนี้มาให้ดู ไม่ใช่ว่าปุ๊ไม่สนใจนะคะ คือในใจปุ๊คิดอยากแก้ไขจุดที่ต้องการมานานแล้วค่ะ เพียงแต่ปุ๊ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนอะไรยังไงดี พอพวกนางเข้ามามันก็เหมือนเปิดโลกอีกโลกที่ปุ๊อยากจะสัมผัสมานานแล้วให้ชัดเจนขึ้นอีกค่ะ


จุดแรกที่ปุ๊ทำศัลยกรรมคือ ตา ค่ะ เพราะตาปุ๊มีปัญหาตรงที่หนังตาตกเนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง(หมอบอกมาค่ะ) ซึ่งในอนาคตมันต้องตกมากกว่านี้แน่นอนค่ะ และพอหนังตาที่ตกเกินกว่าที่มันควรเป็น มันก็ทำให้ปุ๊ดูเป็นคนที่หน้าตาดูแก่กว่าวัย ดูง่วงตลอดเวลา(อันนี้อีลูกสาวชอบบ่น) จนถึงวันหนึ่งที่มีโอกาสเหมาะปุ๊จึงได้ไปขอคำปรึกษาจากคนนั้น คนนี้ รวมถึงลูกสาวและน้องสาวทั้ง 2 ด้วย จนสุดท้ายก็มาตกลงปลงใจทำตากับ Century Clinic ค่ะ โดยปุ๊เข้าไปทำพร้อมกับ 1 ใน น้องสาวพร้อมกันเลยค่ะ ปุ๊ได้ทำการจองคิวและสอบถามรายละเอียดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับทางคลินิกค่ะ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีค่ะ ทำให้รู้สึกเบาใจไปได้เยอะเลยค่ะ แต่ก็ยังแอบประหม่า พารานอยส์เล็กน้อยตามประสาคนไม่เคยทำศัลยกรรมค่ะ ซึ่งต่างจากน้องสาวที่ไปทำพร้อมกันเลยค่ะ รายนั้นทำเคยผ่านมาแล้วครั้งหนึ่งนางจึงชิวมากค่ะ

พอถึงวันนัดที่ปุ๊ตกลงทำไว้ ปุ๊ก็เดินทางไปที่คลินิกกับลูกสาวค่ะ โดยนางได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะไปเป็นเพื่อนค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องให้ต้องนอยส์ขึ้นจนได้ เพราะลูกสาวนางมาเป็นเพื่อนก็จริงนะคะ แต่นางต้องกลับก่อนที่ปุ๊จะทำทุกอย่างเสร็จ นางว่านางต้องไปต่างจังหวัดด่วนค่ะ ก็โอเคเพราะนางมีเหตุผลของนาง แต่ก็แอบนอยส์อยู่ดี (5555) แต่ก็ยังดีนะคะที่ปุ๊ยังมีน้องสาวที่นัดคิวทำติดกันเลย กะสวยไปด้วยกันค่ะ .... อิอิ ^^


ถึงเวลาขึ้นเขียงจริงก็ตื่นเต้นความประสาค่ะ แต่ยังดีที่ลูกสาวนางยังอยู่ นางจึงตามไปส่งถึงหน้าห้องผ่าตัดเลย ตอนพบคุณหมอก่อนทำนางก็ขอเข้าไปด้วย คุณหมอก็ดูตาปุ๊ค่ะ แล้วบอกว่าตาปุ๊เหมาะกับการทำแบบแผลยาวค่ะ เพราะหนังตาปุ๊ตกเยอะจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณนี้ของปุ๊อ่อนแรงค่ะ เพราะทีแรกใจปุ๊อยากทำแบบแผลเล็กค่ะ เพราะไม่อยากหลับตาแล้วเห็นรอยเยอะๆ แต่ในเมื่อคุณหมอบอกก็ต้องเชื่อค่ะ เพราะถ้าทำแบบแผลเล็กไป อนาคตมันก็อาจจะตกลงมาได้อีกค่ะ ก็เลยต้องตามที่คุณหมอแนะนำเลยค่ะ และในส่วนของลูกสาวนั้น ต้องยอมใจนางนิดนึงค่ะ เพราะถ้านางไม่ได้ไปต่างจังหวัดนางจะขอคุณหมอเข้าไปดูในห้องผ่าตัดค่ะ นางว่านางไม่กลัว นางเคยเล่าว่านางเคยขอคุณหมอเข้าไปนั่งดูเพื่อนแก้จมูกในห้องผ่าตัดค่ะ นางเลยว่าทำตาเนี่ยจิ๊บๆมาก แต่คุณหมอไม่ให้เข้าค่ะ ก็เป็นอันว่าอดไป ถึงนางจะอยู่ได้ก็ตาม


ขั้นตอนการทำก็น่าจะเหมือนการทำตาทั่วๆไปค่ะ ทำความสะอาด ฉีดยาชา และลงมือทำ ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหาใดจนเสร็จ แต่ปัญหามันเริ่มเกิดหลังจากเสร็จนี่หละค่ะ เพราะปุ๊ทำแบบแผลยาว ทำให้คุณหมอต้องปิดแผลทั้ง 2 ข้าง และห้ามใช้สายตาอย่างน้อย24 ชม.เต็ม ค่ะ เท่ากับปุ๊ต้องอยู่อย่างคนตาบอดไปอีก 1 วันเต็มๆ ซึ่งแตกต่างกับน้องสาวที่ไปทำวันเดียวกันมาก เพราะนางทำแผลเล็ก เลยชิวมาก ขับรถกลับบ้านเองได้ด้วย แต่ก็มีตุ้บๆนิดหน่อยนางว่า ใจจริงนางก็อยากขับรถไปส่งปุ๊นะคะ แต่ติดที่บ้านนางอยู่นิมิตใหม่ บ้านปุ๊อยู่พระราม 2 คนละฝากเลยค่ะ ปุ๊เลยต้องตามให้น้ามารับกลับค่ะ

ทีนี้มาดูรูปความเปลี่ยนแปลงกันค่ะ ว่าจะเป็นไงบ้าง

หลังจากที่เปิดตาออกมาแล้วลูกสาวนางกำชับหนักเลยค่ะว่าให้ทำแผลทุกวัน พยายามอย่าให้มีคราบเลือดเหลือเลย ทาขี้ผึ้งตามที่คุณหมอสั่ง แล้วมันจะดีเอง

และพอครบ 5 วันก็ไปตัดไหมตามที่หมอนัดค่ะ แต่น้องสาวมาด้วยไม่ได้ นางว่านางติดธุระ ปุ๊เลยมาตัดไหมกับคุณแม่แทนค่ะ พอตัดไหมเสร็จเราก็ไปทานข้าวกันตามประสาแม่ลูกค่ะ ^^

ซึ่งช่วงที่ทำตาเนี่ยปุ๊มีโอกาสได้หยุดยาว 5 วัน ค่ะ เพื่อนๆที่ทำงานจึงไม่รู้ว่าปุ๊ทำตากัน พอเจอหน้ากันครั้งแรกหลังจากหยุดยาว ส่วนมากก็จะชมกันค่ะว่าทำแล้วดูเด็กลง ดูธรรมชาติมาก หลากหลายคำชมมักไปในทางบวกค่ะ แต่ก็แอบมีหลุดมาบ้างที่ถามปุ๊ว่าทำทำไม ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว (ปุ๊ก็คิดนะ คุณพี่เขาคิดอะไรอยู่ ปุ๊ไม่เข้าใจ 5555) ปล่อยผ่านค่ะ ... อิอิ


แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะดีไปเสียหมดนะคะ มันดันมีติ่งเนื้อเล็กๆเกิดขึ้นมาตรงรอยแผลค่ะ และรอยชั้นตามันซ้อนกันค่ะ มันทำให้ปุ๊นอยส์พอควรเลยค่ะ เพราะปุ๊อยากให้มันเรียบเนียนไปเสียมากกว่า ให้เป็นแบบนี้ พอไปปรึกษาอีลูกสาวนางก็ประเคนกลับมาชุดใหญ่เลยค่ะ เริ่มจากปลอบ เริ่มไม่ปลอบ บ่น จนไปถึงด่าเลยค่า....55555 (โดนจนได้)

นางบอกว่า “ชั้นตาเธอพึ่งเกิดใหม่นะ มันจะซ้อนกันอย่างนี้ก็เป็นเรื่องปกตินะ นอยส์เพื่ออออออออ ......... แล้วอีกอย่างระยะส่องกระจกเธอเท่าไหนคะ? (ปุ๊บอก ประมาน 10-20 ซม.) ค่ะ!!! ชีวิตจริงๆในทุกๆวันมันจะมีคนเข้าใกล้เธอขนาดนั้นม้ะ ถ้าไม่ใช่ผัว ........ซึ่งไม่มี ......... เทอลองถอยหลังออกจากกระจกสักเมตร ครึ่งเมตรสิ ถ้าเธอเห็นรอย นั่นแปลว่าเธอแก่สายตายาวแล้ว(โดนตลอดค่ะ 5555)”


พอได้ฟังดังนั้นมันก็ทำให้ปุ๊คิดได้ค่ะว่ามันจริงตามที่นางบอกเลย มองจากระยะที่นางบอกมันดูปกติมากแค่เราลืมตาขึ้น รอยพับที่ซ้อน ติ่งเนื้อที่ว่านั้นก็ไม่เห็นจริงๆค่ะ แต่ปุ๊ก็ได้ไปสอบถามทางคุณหมอนะคะเรื่องติ่งเนื้อ ซึ่งคุณหมอได้ให้คำตอบว่าหากครบ 3 เดือนแล้วมาตรวจเช็คยังมีอยู่อีกจะทำการแก้ไขจุดนี้ให้ค่ะ ซึ่งปุ๊เองก็สบายใจค่ะ หมดกังวลในเรื่องตาไปค่ะ เพราะแค่ทำมาแล้วปุ๊รู้สึกโอเค คนรอบตัวเราชอบ มันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องสนอะไรแล้วค่ะ ^^

------------------------------------------------------------------

 

[blue of winter]

Step ที่ 4 ศัลยกรรมจมูก

ด้วยความเป็นชะนีน้อยหอยสังข์ที่พอมีดั้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่แบบราบไปเสียทีเดียวนะคะ ตามแบบฉบับของผู้สาวชาวอีสานแท้ๆแหละค่ะ และด้วยยุคสมัยที่หมุนเวลาไปนั้นก็สามารถรังสรรค์ให้ดั้งจมูกของใครหลายคนสวยสมใจกันมานักต่อนักแล้ว ซึ่งมีทั้งสำเร็จ ไม่สำเร็จก็มี แลปุ๊ขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่ทำไม่สำเร็จด้วยนะคะ คงไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวหรอกค่ะปุ๊ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ เพราะปุ๊เองก็มีแพลนจะทำจมูกเหมือนกันค่ะ แต่เพียงแค่รอจะหวะที่เหมาะสมเท่านั้นค่ะ ซึ่งจังหวะเหมาะสมของปุ๊ก็คือช่วงหยุดยาวสงกรานต์ที่ผ่านมา และไม่กี่วันก่อนจะตกลงทำปุ๊ก็ได้ศึกษาค้นคว้ามองหารีวิวมาอ่าน ว่าคลินิกไหนดี คลินิกไหนถนัดผู้ชาย ผู้หญิงยังไง ราคา รูปทรง ปุ๊ดูหมดค่ะ เพราะปุ๊ คัดแล้ว คัดอีก ......... ไม่ใช่แค่อะไรก็ได้ ....ได้....... ได้.......(เลียนแบบโฆษณาช่อง 7 HD) จนได้ตกลงปลงใจทำกับทาง SLC Clinic ค่ะ ก่อนทำปุ๊ก็ได้หาทรงจมูกที่ชอบมาเตรียมไว้อย่างที่หลายๆคนทำเช่นกันค่ะ โดยจมูกที่ปุ๊ชอบและจัดหารูปไว้แล้วเพื่อนำไปให้คุณหมอดูว่าหนูจะทำทรงนี้ค่ะ นั่นก็คือจมูกทรงแบบ มีน พีชญา ค่ะ

แต่เมื่ออีลูกสาวทราบว่าทรงจมูกที่ปุ๊เลือกไว้คือทรงไหน เท่านั้นแหละค่ะ ..... นางเบรกปุ๊หัวทิ่มเลยค่ะ(ใจหายว้าบบบ) นางไม่อนุมัติให้ทำทรงนี้เด็ดขาด โดยเหตุผลที่นางให้มามันเป็นอะไรที่ทำให้ต้องฉุกคิดจริงๆค่ะ เพราะนางบอกว่าปุ๊เป็นคนหน้ากลม สั้น ไม่ได้เรียวยาวแบบเขานะ ทำแบบนั้นจะเป็นแม่มดไปป่าววววแกกกกกก ......... จบปึ้งงงง!!! มีน พีชญาชั้นนนน T^T ............... และนางก็เสนอทรงจมูกใหม่ให้กับปุ๊ค่ะ คือทรงของ ภัทรรินทร์ จาก ลมซ่อนรัก หรือ ทรงของ แต้ว ณฐพร ค่ะ ….. ก็โอเคค่ะทรงนี้ปุ๊ก็ชอบอยู่ จากที่ลูกสาวนางบอกว่าหน้าแต้วเป็นใบหน้าที่กลม ไม่ได้เรียวอะไรมากมาย มีจมูก มีคาง(แต่ปุ๊ยังไม่มี ซึ่งในอนาคตต้องมีแน่ๆค่ะ) พอให้ใบหน้าสมส่วน ดูน่ารักใสๆ เหมาะกับบุคลิกของปุ๊มากกว่า

ถึงวันทำจริง รอบนี้ปุ๊ไปกับคุณแม่ค่ะ เพราะคุณแม่ว่างพอดี รูปทรงจมูกของแต้วที่เตรียมไว้ก็ดันมีแค่ในมือถือ ปุ๊ไปรู้จะทำยังไงดีค่ะ ก่อนถึงคลินิกแล้วเข้า 7/11ซื้อหนังสือละคร ลมซ่อนรัก ติดตัวไปด้วย และถือเข้าห้องผ่าตัดไปด้วยค่ะ เพื่อให้คุณหมอดูค่ะว่าต้องทรงไหน 55555(แอบขำตัวเอง)


พอถึงเวลาทำจริงคุณหมอก็นำซิลิโคนมาให้ดูค่ะ หลายเกรด หลายทรงมาก ปุ๊ไม่รู้จะทำไงเลยถ่ายรูปส่งไลน์ไปในกรุ๊ปที่มี ปุ๊ ลูกสาว และน้องสาวอีก 2 คน ดูค่ะ น้องสาวทั้งสองต่างบอกว่า “ให้หมอช่วยเลือกเลยเจ้” ต่างจากอีลูกสาวมาก นางชี้เลือกเลยว่าให้ปุ๊เอาทรงไหน ให้หมอเหลาตรงไหนอะไรยังไง เพื่อให้ได้ออกมาเป็นทรงของแต้วตามที่ปุ๊ต้องการ

สุดท้ายพอถึงเวลาจริงปุ๊ไม่ได้บอกหมอตามที่ลูกสาวนางบอกหรอกค่ะ มันตื่นเต้นจนลืม สุดท้ายไม่ผิดคาดค่ะ คุณหมอหยิบอันที่ลูกสาวนางชี้ไว้ และจัดการเหลา นิดๆ หน่อยตามที่นางบอกเลย (นางต้องมีญาณทิพย์แน่ๆ) พอขึ้นเขียงทำความสะอาด และฉีดยาชา(เข็มแรกน้ำตาทะลักค่ะ) ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนของคุณหมอ จนเสร็จเรียบร้อย เย็บแผลกลับบ้าน


รูปหลังทำเสร็จทันทีค่ะ
สุดท้ายไม่เหมือนแต้วนะคะ เป็นตัวเองค่ะเพราะหมออธิบายค่ะว่าข้อจำกัดของใบหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณหมออธิบายเยอะมากๆบลาๆ สุดท้ายบอกหมอว่าเลือกทรงที่เหมาะกับใบหน้านู๋ที่สุดค่าาา555

รูปในวันที่ 5 เป็นต้นไปไม่ได้ถ่ายไว้นะคะ เพราะดูแล้วไม่ค่อยต่างกันมากค่ะ และเช่นเคยค่ะโดนอีลูกสาวกำชับตามเดิมว่าให้ทำความสะอาดแผลให้เกลี้ยงอย่า ให้มีคราบเลือดเลยจะดีมาก ตอนตัดไหมจะไม่เจ็บ ปุ๊ก็จัดการตามนั้น จนถึงวันตัดไหมก็ไม่เจ็บอย่างที่นางว่าจริงๆค่ะ แต่ก็มีติดอยู่เรื่องหนึงค่ะในเรื่องความสูง ส่วนตัวปุ๊คิดว่ามันไม่ค่อยโด่งเท่าไหร่นะ แต่น้องสาว และ ลูกสาวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าโด่งแล้ว นี่ยังไม่เซ็ทตัวเลยพอทุกอย่างเข้าที่จะเห็นเองว่ามันดูโด่งแบบธรรมชาติ ปุ๊เลยหยุดความคิดที่ว่าไม่โด่งไปเลยค่ะ เพราะพวกนางคือผู้ที่ผ่านประสบการณ์ทำจมูกมาแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะลูกสาวที่ทำแล้วแก้อยู่ถึง 2 ครั้งด้วย รวมครั้งแรกเป็น 3 ครั้ง และสุดท้ายนางก็เอาออกค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่า นางบู้ล้างผลาญเกินไป ไม่เหมาะกับการมีดั้งจมูกเท่าไหร่ ...... แต่ปุ๊ว่าเอาออกกับไม่เอาออกแทบไม่ต่างเลยค่ะ เพราะนางมีจมูกอยู่แล้ว และนางเคยรีวิวไว้ในนี้เมื่อนานมาแล้วด้วยค่ะ

------------------------------------------------------------------


สุดท้าย ... ทุกอย่างที่เกิดขึ้น หมุนเวียน เปลี่ยนแปลงในชีวิตปุ๊มันเป็นอะไรที่ดีค่ะ ปุ๊คิดว่าปุ๊คิดไม่ผิดที่เลือกเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ เพราะมันทำให้ปุ๊มั่นใจขึ้นมาก ในทุกๆเรื่อง ทั้งหน้าตา รูปร่าง และสุขภาพ และถ้าเรื่องของปุ๊จะถูกนำไปเป็นแรงบันดาลให้กับใครสักคน ปุ๊ก็ยินดีค่ะ ที่จะได้เป็นต้นแบบให้ใครสักคนที่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะสุดท้ายทั้งหมดแล้วมันก็เพื่อตัวเองทั้งสิ้นค่ะ ไม่ใช่เพื่อใครเลยค่ะ และปุ๊อยากจะฝากถึงทุกๆท่านที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมนั้น ควรทำให้อยู่ในความพอดี อย่าหูเบา ซึ่งปุ๊โชคดีค่ะที่มีลูกสาวและน้องสาวทั้ง 2 อยู่เคียงข้างกันเสมอ คอยบอก คอยปราม คอยเตือน ช่วยกันเป็นกำลังใจ ช่วยกันค้นหาสิ่งที่เหมาะสมและพอดีให้แก่กันและกันเสมอ หากปุ๊ไม่มีพวกนางปุ๊คงจะจับต้นชนปลายไม่ถูกจริงๆ ขอบคุณทุกนางจริง (Love You All ^3^) ..... และปุ๊ขอขอบคุณผู้อ่านรีวิวทุกท่านจริงๆค่ะ ที่อ่านรีวิว Age Of Piyaporn มาจนถึงตรงนี้ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ ^-^

Many Thanks


ปิยะพร (ปุ๊)




ปล.1 ลูกสาวที่ปุ๊เรียกเขา จริงแล้วเขาไม่ได้สาวอย่างที่หลายคนคิดนะคะ ปุ๊เรียกของปุ๊เองค่ะ ^_^

ปล.2 รูปอาจมีผมสั้น ผมยาวสลับกันบ้างตามเนื้อเรื่องนะคะ

 

[DavidMinho]

หูยยยยยย เปลี่ยนไปเยอะเลยยย

 

[blue of winter]

หูยยยยยย เปลี่ยนไปเยอะเลยยย

เปลี่ยนไปจิงๆจนตกใจตัวเองเลยค่าาา
แถมอีกรูป ก่อนทำ>ทำตา>ทำจมูก

 

[freshnight]

เชื่อปะว่าอ่านจนจบ

ที่เปลี่ยนและเห็นได้ชัดคือ ผิวหน้า ดูเนียนละเอียดมาก

ส่วนตากับจมูกทำให้เครื่องหน้าดูสวยขึ้น หน้าก็เปลี่ยนไปอีกระดับหนึ่ง

โดยรวมสวยขึ้นมาก

ปล.อยากแนะนำให้ปรับรูปหน้าอีกนิด รับรองแจ่ม

 

[blue of winter]

เชื่อปะว่าอ่านจนจบ

ที่เปลี่ยนและเห็นได้ชัดคือ ผิวหน้า ดูเนียนละเอียดมาก

ส่วนตากับจมูกทำให้เครื่องหน้าดูสวยขึ้น หน้าก็เปลี่ยนไปอีกระดับหนึ่ง

โดยรวมสวยขึ้นมาก

ปล.อยากแนะนำให้ปรับรูปหน้าอีกนิด รับรองแจ่ม

ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาอ่านเรื่องราวอันแสนยาวนานค่ะ แรกๆกังวลค่ะ ยาวเกิ๊นนน ก้อไม่มีใครมาอ่านหรอก เพราะไม่ได้สวยจนแบบโอ้ววว น่าดูมากกก55
ส่วนปรับรูปหน้ากำลังคิดอยู่เลยยย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ^^

 

[Bigky2525]

ดูน่ารักขึ้นมากนะครับ ตาหวานๆ

 

[blue of winter]

ดูน่ารักขึ้นมากนะครับ ตาหวานๆ

ขอบคุณมากๆค่ะ ดีใจทำมาแล้วดูดีขึ้น

 

[freshnight]

ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาอ่านเรื่องราวอันแสนยาวนานค่ะ แรกๆกังวลค่ะ ยาวเกิ๊นนน ก้อไม่มีใครมาอ่านหรอก เพราะไม่ได้สวยจนแบบโอ้ววว น่าดูมากกก55
ส่วนปรับรูปหน้ากำลังคิดอยู่เลยยย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ^^

จขกท. เป็นสไตล์น่ารัก แบบแนวหวานๆ ไม่ใช่หน้าคมๆเฉี่ยวๆอ่ะครับ

 

[blue of winter]

จขกท. เป็นสไตล์น่ารัก แบบแนวหวานๆ ไม่ใช่หน้าคมๆเฉี่ยวๆอ่ะครับ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^_^

 

[freshnight]

มีอัพเดททำอะไรเพิ่ม อย่าลืมมารีวิวให้ชมด้วยนะครับ ^^

 

[blue of winter]

มีอัพเดททำอะไรเพิ่ม อย่าลืมมารีวิวให้ชมด้วยนะครับ ^^

ค่ะ ไว้เด่วมาอัพเดท ช่วงนี้ปลายจมูกแดงมาก นัดหมอไว้พรุ่งนี้ ถ้ามีไรคืบหน้าจะมาอัพเดทให้อ่านกันนะคะ

 

[neung_CM]

Age Of Piyaporn
​

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกๆท่าน นี่คือการรีวิวการเปลี่ยนแปลงฉบับแรกของดิฉัน ซึ่งดิฉันนั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีความต้องการที่จะดูดี ดูสวยขึ้นบ้าง ดูดีขึ้นบ้าง เท่าที่ดิฉันจะทำได้ค่ะ

จากนี้ดิฉันขอเรียกแทนตัวเองว่า ปุ๊ นะคะ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของดิฉันเอง

ก่อนอื่นปุ๊ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าทำไมต้องเป็น Age Of Piyaporn …. ใช่ค่ะ ปุ๊ชื่อจริงว่า ปิยะพร ปุ๊จึงขอใช้ชื่อการรีวิวการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ตามหนังเรื่องหนึ่งที่ปุ๊คิดว่า ปุ๊ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ แต่ชีวิตปุ๊ไม่ได้สวยงาม เริ่ดหรูขนาดในหนังนะคะ แต่ปุ๊ชอบนางเอกค่ะ นางเอกที่เกิดเหตุการณ์หนึ่งกับชีวิตขึ้น ทำให้อายุขัยและสภาพร่างกายนั้นคงความสวยงามขนาดนั้นไว้ได้ โดยไม่ว่าจะผ่านมากี่สมัย นางเอกก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยงามอยู่เสมอ

กลับมาสู่ความจริงกันค่ะ ปุ๊จะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะ มันเป็นแค่หนัง ชีวิตจริงปุ๊ก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ในประเภทที่สวย หรือน่ารักจนทำให้ใครๆเหลียวมอง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมองเลยนะคะ มันมีบ้าง แต่นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที (นานจนบางทีปุ๊ก็คิดนะ ว่าเขาสนอะไรในตัวเรา 555) แต่ปุ๊ก็ยังมีดีนะคะ ปุ๊จริงจัง จริงใจกับเพื่อนๆทุกคนที่ดีกับปุ๊ค่ะ และวันเวลาที่ผ่านพ้นไปเรื่อยๆก็ทำให้ปุ๊ได้พบเจอกับผู้ชายคนนึงค่ะ ผู้ชายคนนี้แหละค่ะที่เป็นแรงผลักดันให้ปุ๊ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองแล้ว จากที่ปุ๊เคยแค่คิดๆ แต่ไม่ได้ลงมือทำจริงจังอะไรเท่าไหร่
........
แต่ก่อนจะคิดกันไปว่าปุ๊แอบชอบผู้ชายคนนั้นแน่ ปุ๊เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เขามาสนใจในตัวปุ๊ .... คุณคิดผิดค่ะ .... อิอิ

​

ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นน้องปุ๊ค่ะ เราได้เจอกันเพราะเราได้เจอกันตอนเรียนปริญญาโท เราเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ สนิทกันมากมากเสียจนเราสามารถปรึกษาอะไรกันได้แทบจะทุกเรื่อง และเดิมทีผู้ชายคนนี้มาพร้อมกับผู้ชายอีก 1คน และผู้หญิงอีก 2 คนค่ะ ครั้งแรกที่ปุ๊พวกพวกเขาปุ๊ว่าเขาต้องเป็นคู่แฟนที่จับมือมาเรียนด้วยกันชัวร์ ซึ่งมันก็ดูน่ารักดีนะค่ะ แต่แล้วทุกอย่างมันก็ผิดค่ะ 4 คนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนอกจากเพื่อนกัน และด้วยวันเวลาที่ผ่านพ้นไป เหตุการณ์หลายๆอย่างได้ผ่านเข้ามา จากกลุ่ม ชาย 2 หญิง 2 ก็เหลือเพียงแค่ ชาย 1 หญิง 2 ตรงนี้ปุ๊ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ ด้วยความที่ปุ๊นั่งเรียนอยู่โต๊ะหลังพวกเขา ทำให้ปุ๊เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น และสนิทมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
สำหรับผู้ที่คิดว่าปุ๊จะชอบเขา ............ บอกไว้เลยตรงนี้เลยค่ะ ปุ๊เสียใจมาก ..........หลอกกกกกกก!!!!! ผิดค่ะเพราะจริงๆแล้วเขาเข้ามาในชีวิตปุ๊ในฐานะน้องชายเท่านั้นค่ะ เขานี่แหละค่ะคือจุดเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ชีวิตเขาปุ๊เริ่มเปลี่ยนไปค่ะ เช่น เรื่องการขับรถ เทคโนโลยี รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่จะเล่าในรีวิวนี้ด้วยค่ะ และในบางทีปุ๊ก็รู้สึกเหมือนได้ลูกสาวเพิ่มมาทั้งๆที่ยังไม่มีผัว หรือจะให้สุภาพ ก็สามีนั่นแหละค่ะ 5555

​

นอกเรื่องมาเยอะแล้ว ปุ๊ขออนุญาตกลับมาที่รีวิวการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้อีกทีนะคะ เริ่มต้นกันเลยแล้วกันค่ะ ปุ๊อยากให้ทุกคนจินตนาการภาพของปุ๊นะคะ ปุ๊เป็นผู้หญิงรูปร่างท้วม จนเกือบแตะค่ะว่าอ้วน ไม่สูง ผมยืด แตกปลาย เสีย และดีดขั้นรุนแรง ผิวพรรณพอไปวัดไปวา มาต่อกันที่หน้าตานะคะ ปุ๊ไม่ใช่คนน่ารัก หรือสวยอะไร เป็นผู้หญิงหน้ากลมๆ ผิวหมองคล้ำ เป็นสิวผด สิวอักเสบอยู่บ่อยๆ หางตาตก จมูกก็พอมี คางนิดหน่อยค่ะ ....... (เอ๊ะ!!! นี่มันตัวฉันรึเปล่านะ ทำไมหาดียากจัง 5555)

------------------------------------------------------------------​

Step ที่ 1 ของการเปลี่ยนแปลงผิวพรรณ (ผิวหน้า และผิวกาย)

ผิวกาย - ปุ๊ขอเริ่มจากผิวกายก่อนแล้วกันนะคะ ด้วยเดิมทีแล้วปุ๊ไม่ได้เป็นคนผิวดี หรือผิวสวยแต่อย่างใด แต่ปุ๊เป็นคนที่ไม่ชอบให้ผิวตัวเองแห้งอยู่แล้ว จึงเป็นคนที่ติดการทาโลชั่นตลอดเวลา ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการทดลองยี่ห้อนั่นนี่มาเรื่อย จนมาตกลงปลงใจในความชุ่มชื่นของ Jergen ค่ะ เพราะส่วนตัวแล้ว ความขาวใสอะไรนั่นปุ๊ไม่ได้ต้องการเท่าไหร่ค่ะ ปุ๊ขอแค่เรามีผิวที่ชุ่มชื่นดูสุขภาพดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

​

ผิวหน้า – ตรงนี้ขอบอกเลยค่ะ ปุ๊คิดมาเสมอค่ะว่าแค่ล้างน้ำเปล่า กับผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งก่อนหน้าที่ปุ๊จะได้เจอผู้ชายคนนั้น หรือที่เป็นลูกสาวของปุ๊ในบางเวลานั้น ปุ๊ไม่เคยใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าเท่าไหร่ ปุ๊ทำได้แค่เพียงซื้อตามคำชวนเชื่อของโฆษณาเท่านั้นค่ะ หรือเพื่อนบอกว่าตัวไหนดีก็ฟังๆไว้ และถ้ามีจังหวะที่ของที่ใช้อยู่ใกล้หมด ก็ได้ลองซื้อมาใช้ตามคำบอกเล่าค่ะ จากการใช้ไปแบบไม่คิดอะไรนั้นก็ทำให้ผิวหน้าของปุ๊ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ไม่ใส สิวผดไม่หายขาด สิวอักเสบก็มาทักทายกันอยู่เรื่อยๆ จนลูกสาวของปุ๊เกิดการสงสัยขึ้นมาค่ะ ว่าทำไมหน้าปุ๊ไม่ห่างสิวสักที นางจึงเริ่มสืบค่ะ ใช่ค่ะสืบทุกอย่างเลย ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้เครื่องสำอาง การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าต่างๆ สืบไปยันวันมามากนู่นเลยค่ะ!!! (สืบลึกมากจนแอบคิดว่านางเป็นหมอหรอ) ไม่ต้องตกใจค่ะ ปุ๊ถามนางนะว่าทำไมต้องถามขนาดนี้ นางก็ให้เหตุผลมาค่ะ ว่าทุกอย่างมันสัมพันธ์กันหมด ซึ่งมาก็จริงค่ะ ทุกอย่างที่นางสืบมันส่งผลกับผิวปุ๊จริงๆค่ะ

เพราะ เมื่อก่อนเลยปุ๊ติดกาแฟค่ะ เช้า สาย บ่าย เย็น (แต่เย็นไม่ค่อยบ่อยมาก) ปุ๊ไม่ค่อยได้ดื่มน้ำเปล่าเท่าไหร่ นางก็เริ่มบอกให้ปุ๊ลดการดื่มกาแฟลง และให้เพิ่มการจิบน้ำเปล่าแทน เพราะการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะใน 1 วันนั้นส่งผลดีกับสุขภาพมากๆ อันนั้นปุ๊คิดว่าหลายคนคงรู้กัน แต่ไม่ค่อยได้ปฏิบัติกันเท่าไหร่ เพราะเกรงว่าจะปวดฉี่ระหว่างวันมากขึ้น ซึ่งมันจริงค่ะ มันปวดฉี่บ่อยขึ้นแต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับการทำงานนัก เพียงแค่เราใช้การจิบน้ำแทนการยกกระดกทีละแก้วใหญ่ๆ ...... พอปุ๊ได้ลองทำตามที่นางบอก สิ่งหนึ่งที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงคือ ผิว ผิวดูใสขึ้น ดูอิ่มน้ำขึ้น ระบบการไหลเวียนของเหลวในร่างกายเริ่มดีขึ้น แต่มันยังไม่ดีที่สุดนะคะ (ตรงนี้ปุ๊ขอยกไปไว้ในส่วนของรูปร่างต่อไปนะคะ)

พอปุ๊เริ่มปรับเปลี่ยนการดื่มน้ำแล้วมันก็ดีขึ้นจากข้างในค่ะ แต่ผิวภายนอกเราก็ต้องสนใจด้วย (ตรงนี้ลูกสาวได้กล่าวไว้) ลูกสาวของปุ๊จึงได้พาปุ๊ไปพบเจอกับผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมผิวปุ๊ไปเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยลูกสาวของปุ๊เนี่ยเป็นคนเริ่มใช้ก่อน (ฟังดูเหมือนขายตรง แต่ไม่ใช่นะคะ อิอิ) โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่าก็คือ No.7 สูตร Beautiful Skin และ Hada Labo ค่ะ จากการที่ลูกสาวผ่านการใช้งานมาประมาณครึ่งหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ นางบอกปุ๊เลยว่า “มันเริ่ดมากเจ้” (ลูกสาวมักเรียกปุ๊ว่า “เจ้” ค่ะ) สูตรนี้มันจะเป็นสูตรที่ทำให้ผิวเราสะอาด ผิวหน้าไม่มันเงาเท่าเมื่อก่อน หน้าดูใสขึ้นแบบผิวดูสุขภาพดี ไม่ใช่หน้าขาววอกแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆนะคะ ซึ่งตรงนี้บอกเลยค่ะ จากการที่ปุ๊ได้ใช้จริงๆแล้ว ปุ๊พอใจกับผลลัพธ์ค่ะ ผิวค่อยๆดีขึ้นตามลำดับค่ะ สิวเริ่มลดลงเรื่อยๆค่ะ ปุ๊พอใจค่ะ ^^ แต่ต้องสูตรนี้เท่านั้นนะคะ เพราะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ปุ๊เห็นสูตรไวท์เทนนิ่งลดราคาจึงได้ลองซื้อมาใช้ ........ ผลคือสิวมาให้ทันทีเลยค่ะ ปุ๊เลยยกให้ลูกสาวใช้แทน เพราะนางหน้าหนา หน้าทน (ไม่ได้ด่าเธอนะคะ ลูกสาววว ^^) กับทุกผลิตภัณฑ์ พอนางเอาไปใช้กลับไม่เป็นอะไรเลย (ตรงนี้ก็แอบอิจฉานางที่ผิวไม่แพ้ง่ายนะ)

ปุ๊คิดว่าการเลือกผลิตภัณฑ์นั้นมันก็เหมือนกับการทดลองค่ะ เพราะ จากคำพูดของคนนั้นคนนี้ หรือแม้แต่จากผู้เชี่ยวชาญก็ตามแต่ หากเขายืนยันว่าดี ไม่แพ้ นั่นนู่นนี่ แต่ถ้าเราใช้แล้วไม่เกิดผลทางบวก เสมอตัว หรือเกิดผลลบกับเรา นั่นแปลว่าเราไม่ใช่คู่กันค่ะ เราต้องอดทนและค้นหาสิ่งที่เราคู่ควรต่อไปค่ะ ปุ๊โชคดีที่เจอผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับปุ๊ค่ะ และปุ๊คิดว่าปุ๊คงจะอยู่กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไปอีกนานค่ะ

------------------------------------------------------------------​

สู้ๆ

 

[neung_CM]

สวยขึ้นมาเลย

 

[blue of winter]

สวยขึ้นมาเลย

ขอบคุณมากๆนะคะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวย^^

 

[blue of winter]

มารีวิวกันต่อนะคะ คือยังไม่ได้ไปทำเพิ่ม แต่พอดีทำตามาครบ 2 เดือนแล้ว แต่จมูกครบ 1 เดือน เลยเอาความต่างมาให้ดูกันนะคะ^^
เริ่มที่ ตาก่อนนะคะ ตั้งแต่ยังไม่ทำ จนถึงทำแล้ว 2 รูปล่างต่างกันระหว่างไม่แต่งหน้ากับแต่งหน้าออกงานค่ะ

ส่วน จมูก ครบ 1 เดือน แล้ว ก่อนหน้านี้นอยด์มากกกก (ก.ไก่ล้านตัวก้อไม่พอ555) เพราะอยู่ดีๆปลายจมูกมีรอยนูนๆแดงๆ และกลัวเบี้ยวด้วย เลยไปหาหมอมาค่ะ คุณหมอบอกว่าเป็นกระดูกอ่อนที่กำลังปรับตัวเลยแดง ส่วนปลายซิลิโคนอยู่อีกส่วนนึง ไม่ได้ทะลุนะ คุณหมอสอนวิธีการดูว่าเบี้ยวไม่เบี้ยวด้วยค่ะ ต้องยอมรับตามตรงนะคะ ปุ๊ไม่ได้เป็นคนช่างสังเกตแต่แรก ไม่ค่อยละเอียด ต่างจากหลายๆคนที่จะคอยส่องกระจกตลอดว่ามีความผิดปกติยังไง เลยไม่ค่อยรู้ความแตกต่าง มีก้อแต่รูปนี่แหละค่ะ ที่ถ่ายเก็บ พอแดงก้อตกใจ เลยรีบไปหาคุณหมอเลย แต่คงต้องรอดูอาการไปเรื่อยๆค่ะ...ยังไงฝากไว้กับเพื่อนๆที่จะทำศัลยกรรมนะคะ หมั่นคอยตรวจดูอาการ ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะคะ จะได้ไม่นอยด์เหมือนเค้าาาาาาอ่าาาา ผ่านไปเรื่องนอยด์ค่ะ กลับมาที่รีวิวค่าาาาา

รูป ก่อนทำ >หลังทำเสร็จวันแรก

รูปตอนทำจมูกครบ 1 เดือนค่ะ (ป.ล.ไม่ได้ขายของนะคะ พอดีถ่ายรูปร่วมกิจกรรมกับแบรนด์นางเพราะอยากได้ของฟรีและใช้อยู่แล้ว ที่เคยรีวิวใน Part การดูแลผิว ถ่าย 1 ได้ถึง 2 เอามารีวิวด้วยเลยยย)


ไว้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะมาอัพเดทให้ดูเรื่อยๆนะคะ^^

 

[neung_CM]

หน้ารักมากเลย

 

[blue of winter]

หน้ารักมากเลย

ขอบคุณอีกครั้งค่าา ^_^