รีวิวการดึงหน้า หมอต่อพงค์ รัชดา

เกดมณี ฎดา

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
25 พฤศจิกายน 2014
โพสต์
18
คลินิคหมอต่อพงค์ รัชดา
http://www.drtorpong.com/2012/index.php/facelift
ความรู้เกี่ยวกับการดึงหน้า


http://www.drtorpong.com

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น จะมีการหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใบหน้าและลำคอ รวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในตามแรงโน้มถ่วงของโลก ใบหน้าที่เคยเรียบตึงมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงามก็จะดูหย่อนคล้อยไม่เรียบ ตึงเหมือนเดิม
ซึ่งจะเริ่มเห็นเมื่ออายุประมาณ 30-35ปีและจะเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆปัญหาเรื่องการหย่อนคล้อยของใบหน้านี้ไม่ ได้เกิดขึ้นแค่ชั้นผิวหนังแต่เกิดในทุกๆชั้นของใบหน้า

รูปภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเนื้อเยื่อภายในที่หย่อนยานลงเมื่อมีอายุมากขึ้น

aging%20facere.gif
aging%20face%202re.jpg

aging%20face%203re.jpg


ปํญหาใบหน้าหย่อนยานนี้เกิดขึ้น ทั้งตัวผิวหนัง,ไขมัน,เนื้อเยื่อพังผึดภายในที่หย่อนยานลงทำให้ปัจจุบันยัง ไม่มียาหรือครีมที่สามารถแก้ปํญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้าอย่างได้ผล การผ่าตัดดึงหน้ามี วัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขการหย่อนยานของผิวหนังบริเวณใบหน้าและลำคอรวมถึง เนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในโดยเข้าไปยกกระชับเนื้อเยื่อที่อยู่ภายในรวมถึง อาจมีการตัดผิวหนังที่หย่อนยานออก ทำให้ใบหน้าดูกระชับ และเรียบตึงขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดึงหน้า
-เทคนิคและวิธีการผ่าตัด
ปัจจุบัน มีมากมายหลายเทคนิค ซึ่งมีความแตกต่างกันตั้งแต่การให้ยาชา ตำแหน่งแผลผ่าตัด ความสั้นยาวของแผล การเลาะและการยกกระชับเนื้อเยื่อภายใน ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด คนไข้ควรจะมีเวลาปรึกษาและอธิบายความต้องการของตนเองให้กับแพทย์ที่ทำการ รักษาโดยละเอียดก่อนตัดสินใจ
-วิธีการให้ยาชา
อาจใช้ยาชาเฉพาะที่หรึอการดมยาสลบขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์และความเหมาะสมของคนไข้แต่ละราย
-ความเจ็บปวดและการบวมช้ำ
จะ เจ็บเฉพาะตำแหน่งที่ฉีดยาชาบริเวณใบหน้าประมาณ1-2นาที ส่วนการบวมช้ำมักจะมีการบวมช้ำตามปกติไม่มากนักโดยจะเป็นมากที่สุดใน3-4วัน แรกหลังจากนั้นจะค่อยๆยุบลงจนเป็นปกติภายใน2-4สัปดาห์ ถ้าคนไข้สามารถนอนพักได้ประมาณ2-3วันและประคบใบหน้าตามคำแนะนำของแพทย์ก็จะ ช่วยลดบวมได้ดีขึ้น ภายใน1สัปดาห์จะยุบบวมลงมาก 7-10วันสามารถตัดไหมได้ แผลจะหายสนิทใน2-3สัปดาห์
-ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัญหา ที่อันตรายส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้ยาชาแต่พบได้น้อยมาก ส่วนปัญหาอื่นๆเช่น ภาวะเส้นประสาทใบหน้าบาดเจ็บ ภาวะมีก้อนเลือดใต้ผิวหนัง แผลแยก แผลอักเสบ ก็อาจเกิดขึ้นได้แต่ก็พบน้อย อย่างไรก็ดีถ้ามีการประเมินก่อนการผ่าตัดที่ดี เลือกวิธีการผ่าตัดเหมาะสม ผ่าตัดในสถานที่สะอาดใช้เทคนิคปลอดเชื้อ ทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ มีเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง มีการติดตามการรักษาและสามารถแก้ปัญหาเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นการ ผ่าตัดที่ปลอดภัยสูงและมีประโยชน์มาก
-หลังทำการดึงหน้าจะมีแผลเป็นหรือไม่
จะ มีแผลแต่จะอยู๋ในจุดที่ใช้ซ่อนแผลได้ดี ถ้าเย็บแผลด้วยความประณีตจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแผลเป็นนูนและแผลจะค่อยๆจาง ลงไปเรื่อยๆหลังจาก2-3สัปดาห์
-มีวีธีอื่นๆที่สามารถดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือไม่
การ หย่อนยานของใบหน้าเกิดขึ้นเพราะการเสื่อมสภาพของผิวหนังและเนื้อเยื่อภายใน มีการยืดออกและตกลง การผ่าตัดทำเพื่อเข้าไปยกเนื้อเยื่อและผิวหนังซึ่งต้องมีแรงดึง ผิวหนังส่วนเกินก็ตัดออก อาจมีการลดหรือเพิ่มไขมันบางจุด ปัจจุบันยังไม่มีเทคนิคที่อื่นๆที่มี ประสิทธิภาพทดแทนการผ่าตัดดึงหน้าได้ เทคนิคที่เปลี่ยนแปลงไปส่วนใหญ่เป็นเทคนิคที่ใช้ในการยกเนื้อเยื่อภายในให้ ได้ผลดีและอยู่ได้นาน การบอบช้ำที่ลดลงซึ่งหมายถึงระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นขึ้น แผลที่เล็กลงมากกว่า
-วิธีดูแลรักษาอย่างไรบ้างหลังการดึงหน้าแล้ว
ให้ดูแลรักษาแผลตามปกติแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
-ดึงหน้าจะอยู่ได้นานกี่ปี
ขึ้น กับเทคนิคที่ใช้ของแพทย์แต่ละคน เทคนิคสมัยใหม่ที่ใช้จะทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ประมาณ10ปีแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ ผลที่ได้จะคงอยู่ได้นานดูอ่อนกว่าอายุไปตลอด แต่ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงบ้างตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น
รูปเหล่านี้ทุกภาพเป็นผลงานของนพ.ต่อพงศ์ ได้รับอนุญาตจากคนไข้แล้วครับ


facelift57.jpg
facelift58.jpg
 
ด้านบน ด้านล่าง